Thursday, March 31, 2022

แนะนำเพลงคิ้วท์หัวใจฟู ยอมทั้งใจ (You Make Me Smile) ของไบร์ท วชิรวิชญ์

เรียกว่าสุดปังรับซัมเมอร์เลยละค่ะสำหรับหนุ่มสุดฮอต ปังไม่แผ่วอย่างหนุ่ม “ไบร์ท วชิรวิชญ์” ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้ปล่อยเพลงซิงเกิ้ลใหม่อย่างเพลง “ยอมทั้งใจ” ออกมาให้แฟนคลับได้รับฟังรับชมกัน ซึ่งเป็นเพลงที่มีความน่ารักกุ๊กกิ๊กฟีลกู๊ดจนจะต้องอมยิ้มตาม~ แถมครั้งนี้หนุ่มไบร์ทก็ได้ชวนซุปตาร์นางเอกสาวชื่อดังอย่างสาว “เบลล่า ราณี” มาร่วมแจมอีกด้วย! ทำเอาแฟน ๆ หลายคนนั้นจับตามองในการร่วมเฟรมครั้งนี้ของทั้งสอง อีกทั้งความปังของหนุ่มไบร์ทยังไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะเมื่อเพลงปล่อยออกมาไม่นาก Hastag #ยอมทั้งใจMV ที่แฟน ๆ ดันให้ติดทวิตเตอร์ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ไปแบบสุดปัง!


ภาพวรม เพลง “ยอมทั้งใจ” ของหนุ่มไบร์ทมีทำนองและจังหวะที่เป็นแนว Pop เน้นความสนุกสนานฟีลกู๊ด ฟังแล้วชวนเต้นเข้าจังหวะสุด ๆ ยิ่งบวกกับเสียงร้องของหนุ่มไบร์ทที่มีความเป็นเอกลักษณ์ มีความละมุนสดใสตามสไตล์ แถมยังมีเทคนิคการร้องที่ต้องบอกเลยว่าดีต่อใจมากแม่~ โดยความหมายในเพลงยอมทั้งใจนั้นก็คือพูดถึงความคลั่งรักที่มีความคิดถึง ไม่ว่าจะทำอะไรก็อยากให้คอยอยู่ข้าง ๆ กัน อยากดูแลเอาใจใส่ ทำอะไรก็ยอมหมด ถึงแม้ว่าจะเป็นฐานะทาสให้เธอคอยเป็นเจ้านายก็ได้


ส่วนของ Music Video ดยในเพลงยอมทั้งใจของหนุ่มไบร์ทนั้นก็เรียกว่ามีความคิ้วท์น่ารักสดใสมาก เน้นโทนสีสว่างอบอุ่น พวกพร็อบต่าง ๆ คือมี Mood and tone ที่สดใสและยังมีความแมทช์ลงตัวเข้ากับ Outfits เป็นอย่างมาก ดูไปแล้วบอกเลยว่าจะต้องเผลอยิ้มกับความน่ารักแบบไม่รู้ตัวอย่างแน่นอนค่ะ อีกทั้งใน Mv เพลง ยังได้นางเอกสาวชื่อดังสุดฮอตอย่างสาว “เบลล่า ราณี มาเป็นนางเอก Mv อีกด้วย ซึ่งสาวเบลล่าก็เป็นสาวที่หลายคนรู้ดีว่าเธอนั้นเป็น Cat Lover ตัวยง เลี้ยงน้องแมวมาแล้วหลายตัว ในส่วนของแฟชั่นเสื้อผ้าของทั้งสองมีการเน้นโทนสีที่มีความสดใส เน้นสีสว่าง แถมมีความแมทช์ชิ่งกันสุด ๆ ๆ คนไหนยังไม่ได้รับฟังรับไปฟังเสียงละมุน ๆ ของหนุ่มไบร์ทกันด่วน ๆ ในเพลงยอมทั้งใจใน Youtube Channel : GMMTV RECORDSได้เลยค่ะ 




👉👉ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ดูหนังใหม่ชนโรง ได้ที่นี่

Sunday, March 27, 2022

รีวิว Jiva Season1 (2021) เท้าติดไฟ ใจติดฝัน เดอร์บัน สาวนักเต้นสตรีทแดนซ์มากพรสวรรค์จากอุมลาซี

Jiva Season 1 (2021) เท้าติดไฟ ใจติดฝัน ที่อาจสร้างแรงบันดาลให้ใครหลายๆคนได้ในเวลานี้ กับชีวิตสาวน้อยแห่งอุมลาซีของแอฟริกาใต้ ผู้มีใจรักในการเต้นเป็นชีวิตจริงใจ หากแต่เส้นทางที่เธอชอบไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของครอบครัว ซีรี่ย์เรื่องนี้จะทำให้คุณได้เห็นถึงพลังอันยิ่งใหญ่ และความตั้งใจที่เต็มเปี่ยมของเด็กหญิงที่ไม่ยอมแพ้


เรื่องราวของ เดอร์บันศิลปินริมถนนผู้มีพรสวรรค์จากอุมลาซี ที่ต้องเผชิญหน้ากับความกลัวและรับมือกับการคัดค้านของครอบครัว แต่กระนั้นสาวน้อยก็ไม่หยุด เธอยังมุ่งหน้าเดินก้าวต่อไปบนเส้นทางที่ตัวเองเลือกเพื่อไล่ตามความฝันในการเต้นของเธอให้สำเร็จ โดยได้นักแสดงนำ:โนโซโล ดลามีนี,แคนดิส โมดิเซลเล,สเน เอ็มบาธา มาร่วมงานด้วย





โดยรวมถือว่าเป็นซีรี่ย์ใหม่ที่น่าสนใจอีกเรื่อง Jiva! (2021) เท้าติดไฟ ใจติดฝัน เราชอบเรื่องราวและภูมิทัศน์ของแอฟริกาใต้ที่ไม่เหมือนใคร การออกแบบเครื่องแต่งกายและการกำกับศิลป์นั้นสวยงามและนักแสดงก็มีระดับโลก รวบรวมอุดมคติของวัฒนธรรมความรักและการเต้นรำในแอฟริกาใต้ โดยเดอร์บัน สาวนักเต้นสตรีทแดนซ์มากพรสวรรค์จากอุมลาซี ต้องหาทางเอาชนะความกลัวในจิตใจและเสียงคัดค้านจากครอบครัวเพื่อพิชิตฝันในวงการเต้น




👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังรักคอมเมดี้ ได้ที่นี่

Saturday, March 26, 2022

รีวิว Hairspray (2007) โอ๊ะโอ๋! คนจะดัง… ขวางไม่อยู่ มิวสิคัลเก่าที่ดูแล้วขาสั่นตาม มีพลังใจ เพลงเพราะ

Hairspray (2007) โอ๊ะโอ๋! คนจะดัง… ขวางไม่อยู่  เริ่มต้นนางเอกคือเทรซี่ เทิร์นแบลดสาวร่างอ้วนแต่มีหัวใจที่แสนสดใส เต้นได้อย่างพริ้วไหวหาตัวจับยาก และความฝันอันดับหนึ่งของเธอคือการได้ไปวาดลวดลายเต้นคู่กับลิ้งค์ ลาร์กินหนุ่มเท้าไฟสุดหล่อประจำรายการคอร์นี่ คอลลินส์โชว์ 


เรื่องราวบัลติมอร์ สหรัฐอเมริกา ช่วงปี 1960 ยุคที่ วัยรุ่นแต่งตัวเจิดจรัสทั้งเสื้อผ้าหน้าผม มันคือยุคแห่งสีสันและเสรีภาพที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ เด็กสาวหุ่นซุปเปอร์ไซด์ เทรซี่ เทิร์นแบลด (นิโคล บลอนสกี้) ใฝ่ฝันอยากเต้นใน Corny Collins Show ซึ่งเป็นรายการทีวีสุดฮิต ที่นักเต้นทุกคนล้วนแต่หุ่นดี สวย เริ่ด เชิด หยิ่ง เทรซี่ ต้องการคว้าโอกาสนั้นมาให้สำเร็จด้วยการเอาใจช่วยจากทั้งของคุณแม่อารมณ์ดี เอ็ดนา เทิร์นแบลด (จอห์น ทราโวต้า) และ เพนนี พิงเลตัน (อแมนด้า ไบร์ส) ซึ่งนอกจาก เทรซี่ จะมีความคิดอยากให้สาวอ้วนมีโอกาสแจ้งเกิดในเวทีด้วยแล้ว เธอยังคิดผลักดันให้วัยรุ่นผิวดำมีสิทธิ์เต้นออกทีวีด้วยเหมือนกัน แม้จะต้องถูกต่อต้านและท้าชนจากทั้ง แอมเบอร์ วอน ทัสเซิล (บริตตานี่ย์ สโนว์) นักเต้นสาวที่ทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เทรซี่ประสบความสำเร็จ และ แม่วายร้ายของเธอ (มิเชล ไฟเฟอร์)



โดยรวมคือเพลงไพเราะทุกเพลง เพลงไหนคึกคักสนุกสนานจนน่าออกสเต็ปตามตัวละครไป เพลงไหนช้าๆ นิ่งๆ ก็ได้อารมณ์ แต่ที่สำคัญคือทุกเพลงมีความหมายดีมากๆ เราชอบตรงที่เนื้อเพลงมีสาระแทรกอยู่หรือไม่ก็มีการเปรียบสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งนี้ มันคือสไตล์เพลงเก่าๆ ที่ชอบอุปมาชีวิตคนเข้ากับสิ่งของหรือธรรมชาติ เราว่ามันเป็นอะไรที่คลาสสิกมาก นอกจากฟังเพราะแล้วยังได้อะไรชวนให้คิดด้วย และช่วงที่ถือว่าจัดเต็มก็คือไคลแม็กซ์ตอนท้ายที่หนังยิงยาวอัดเพลง You Can’t Stop the Beat แบบเต็มที่สาแก่ใจ ตัวละครออกมาวาดลวดลายกันแบบสุดพิกัด เป็นหนึ่งในไม่กี่ฉากแห่งโลกภาพยนตร์ที่ทำให้ขาสั่นตามด้วยความอยากเต้น ดูหนังเรื่องนี้แล้วมีความสุข มีพลังใจ เพลงก็เพราะ ดูเพลินมากๆ ค่ะ




👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง ได้ที่นี่

Friday, March 25, 2022

แนะนำซีรีย์ Let Me Be Your Knight ให้ฉันเป็นอัศวินของคุณ

Let Me Be Your Knight เป็นเรื่องราวสุดวุ่นวายของหนุ่มไอดอลที่เห็นแล้วต้องมีกรี๊ดกันบ้างแน่นอน  เมื่อไอดอลสุดฮอตหัวหน้าวงของ Luna เป็นโรคนอนละเมอ พวกเขาจึงต้องปิดบังการรักษาอาการป่วยอย่างลับ ๆ โดยแพทย์สาวที่มาประจำที่หอพักศิลปินคนใหม่ ซึ่งตัวจริงของเธอไม่ได้เป็นหมอแต่อย่างใด เธอทำงานเป็นไกด์นำเที่ยวแต่ด้วยเหตุผลจำเป็นบางอย่างทำให้เธอจับพลัดจับผลูเข้าไปอยู่ในหอพักแห่งนี้พร้อมกับ 5 สมาชิกวง Luna



เรื่องราวของไอดอลอินเตอร์ยุนแทอิน(รับบทโดย อีจุนยอง) ป่วยด้วยโรคนอนละเมออย่างรุนแรง และพาคนที่สวมรอยเป็นหมออย่างอินยุนจู(รับบทโดย จองอินซอน) เข้ามาประจำที่หอพักเพื่อทำการรักษาอย่างลับๆ ช่วงเวลาเหล่านี้ จึงเกิดเรื่องราวแสนหวานและน่าตื่นเต้น ระหว่างแพทย์หญิงกับเหล่าสมาชิกบอยแบนด์ทั้งห้า พระเอกยุนแทอิน โปรดิวเซอร์และหัวหน้าวง”ลูน่า”วงดนตรีไอดอลชื่อดังระดับโลก นางเอกอินยุนจู ด้วยคารมคมคายและความมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ชีวิตที่มีเพียงปู่กับย่า ทำงานเป็นไกด์นำเที่ยว เธอฝันอยากจะมีบ้านสักหลัง แต่แล้วก็เข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บางอย่าง ทำให้ต้องปลอมตัวเข้าไปเป็นแพทย์อยู่ในหอพักของวงไอดอล”ลูน่า” เริ่มต้นใช้ชีวิตอันน่าตื่นเต้นร่วมกับชายหนุ่มทั้งห้า สมาชิกของวงไอดอลอีกสี่คนคือ มือเบส อีชิน (รับบทโดย คิมจงฮยอน) คิมยูชาน(รับบทโดย ยุนจีซอง) มักเน่น้องเล็กมือคีบอร์ด อูกาอน(รับบทโดย คิมดงฮยอน) มือกีตาร์และร้องนำซออูยอน(รับบทโดย จางดงจู) อีชินเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ยอมทำทุกอย่างได้เพื่อความรัก ดูแล้วชีวิตเต็มไปด้วยความรัก แต่ในความเป็นจริงเพราะเอาแต่แอบรักเลยมักจะสับสนในใจ คิมยูชานดูเหมือนจะเป็นคนที่ทะเยอทะยาน แต่จริงๆแล้วเขาก็เป็นแค่เด็กหนุ่มผู้โดดเดี่ยวที่มีบาดแผลเต็มตัวเท่านั้น มักเน่น้องเล็กมือคีบอร์ด อูกาอน เป็นโรคหลายบุคลิก อาการป่วยระดับสอง เป็นตัวละครที่ทำให้ทุกคนอยู่ในความหวาดกลัวและคาดเดาไม่ได้ 






โดยรวมเรื่องราวกำลังน่าตื่นเต้นเลยค่ะ เมื่อยุนจูต้องกลายมาเป็นหมอประจำบ้านให้กับไอดอลหนุ่มวง Luna และยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อแทอินปฏิเสธที่จะเข้ารับการรักษา ซึ่งอาจจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์จากคู่กัดเป็นคู่กันก็ได้ ส่วนเรื่องราวดราม่าในชีวิตของยุนจูก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เมื่อความเจ็บปวดในอดีตทำให้เธอกับพี่สาวฝาแฝดกลายเป็นคนแปลกหน้าที่รู้จักกันดี ยุนจูจะทำอย่างไรกับความสัมพันธ์พี่น้องในครั้งนี้ ไปติดตามรับชมกันต่อได้ในซีรีย์นะคะ


👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังสารคดี ได้ที่นี่

Thursday, March 24, 2022

รีวิว Soundtrack #1 ซีรีย์แนวโรแมนติกพร้อมดนตรีไพเราะ

 Soundtrack #1 (2022) ซีรีย์แนวดนตรี-โรแมนซ์ ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ ชายหนุ่ม และ หญิงสาวที่เป็นเพื่อนกันมายาวนานกว่า 20 ปี พวกเขาได้มาใช้ชีวิตด้วยกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และเดินอยู่บนเส้นบาง ๆ ระหว่างความรัก และ มิตรภาพ โดยในซีรีย์จะเชื่อมโยงเรื่องราวความรักที่สัมพันธ์กับกระบวนการทำเพลงอย่างเป็นธรรมชาติให้แฟน ๆ ได้รับชมในเรื่อง ผลงานนี้จะเป็นผลงานใหม่ของ ผู้กำกับคิมฮีวอน ผลงานซีรีย์ขนาดสั้นความยาว 4 ตอน


เรื่องราวของนักแต่งเพลง อีอึนซู (รับบทโดย ฮันโซฮี) ที่กำลังประสบปัญหาต้องดิ้นรนขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่สนิทกันมานานตลอดระยะเวลา 19 ปี อย่าง ฮันซอนอู (รับบทโดย พัคฮยองซิก) ช่างภาพดาวรุ่งผู้มีหัวใจอันอบอุ่น หลังจากที่เธอได้รับโจทย์หินให้แต่งเพลงฮิตเกี่ยวกับเรื่องราวความรักที่ไม่สมหวัง ทำให้ทั้งสองต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันโดยไม่คาดคิด พร้อมกับแบ่งปันเรื่องราวความรักของทั้งคู่ เพื่อช่วยให้แต่งเนื้อเพลงให้ได้จบเพลง



โดยรวมการมาพบกันระหว่าง พัคฮยองชิก และ ฮันโซฮี ได้รับความคาดหวังจากแฟน ๆ ที่จะเห็นเคมีของทั้งสองคน ซึ่ง พัคฮยองชิก จะรับบท ฮันซอนอู ช่างภาพดาวรุ่งที่เป็นคนพูดน้อย แต่มีบุคลิกที่อบอุ่นและเอาใจใส่ผู้อื่น ขณะที่ ฮันโซฮี จะรับบท อีอึนซู นักแต่งเพลงสาวผู้แสนซื่อตรง และ ไม่กลัวที่จะพูดความคิดของเธอออกมา ด้วยคอนเซ็ปต์ของเรื่องราวที่นำเสนอมี ‘ดนตรี’ มาเป็นส่วนสำคัญในเรื่องบรรยากาศของเรื่องราวผ่านบทเพลงประกอบซีรีย์อันแสนไพเราะ พร้อมภาพนิ่งหลายฉากหลายตอนของ พัคฮยองชิก – ฮันโซฮี ที่ปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องให้ได้ชมได้ฟังกันก่อน ไม่ว่าจะเป็น เพลง ‘Love Beyond Words’ ของ คยูฮยอน Super Junior , ‘Want to Be Happy’ ของ พัคโบรัม , ‘Your Tender Heart Hurts Me’ ของ DAVICHI และ เพลง My Love ของคิมจงกุก


สรุปภาพรวมเป็นซีรีย์แนวโรแมนติก มิวสิคัล ที่เคมีพระนางเข้ากันดีมาก ๆ  สะท้อนให้เห็นบรรยากาศที่รู้สึกสบาย ปนหวานระหว่าง พัคฮยองซิก และ ฮันโซฮี เนื่องจากสามารถเห็นได้ใช้เวลาร่วมกันในบ้านที่พวกเขาพักอยู่เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เป็นที่ที่พวกเขาจะได้ตระหนักว่าพวกเขารักกัน มากกว่าแค่เพื่อน คำบรรยายใต้ภาพเขียนว่า “เราเป็นคู่รักหรือเพื่อนกัน” ทำให้เราสงสัยว่ามิตรภาพนี้จะกลายเป็นความรักได้อย่างไร น่าติดตามมากค่ะ 

 👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส ได้ที่นี่

Tuesday, March 22, 2022

รีวิว The Princess and the Frog มหัศจรรย์มนต์รักเจ้าชายกบ

The Princess and the Frog  เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นแนวมิวสิคัลแฟนตาซีของอเมริกาปี 2009 ที่ผลิตจากเทพนิยายของบราเดอร์กริมม์ เป็นแอนิเมชั่นคลาสสิกลำดับที่ 49 ของดิสนีย์ Tiana ซึ่งเป็นตัวละครหลักยังโด่งดังในฐานะเจ้าฟ้าหญิงแอฟริกัน – อเมริกันคนแรกของดิสนีย์ ภาพยนตร์หัวข้อนี้สร้างขึ้นจากนิทานเด็กเรื่อง The Frog Princess โดย E.D. Baker and the fairytale พระราชโอรสกบ แม้กระนั้นให้ความนำสมัยน้อยที่ บริษัท หวังว่าจะมีผลให้เป็น "หนังเจ้าฟ้าหญิงสำหรับผู้ที่เกลียดชังหนังเจ้าฟ้าหญิง


เรื่องราวของ หญิง ผิวสีที่อยากจะเปิดร้านอาหาร เมื่อคืนนั้นได้รับเชิญเข้าไปในวัง เธอได้ซุ่มซ่าม เเละ เสื้อผ้าเลอะหมด เพื่อนเธอจึงเอาเสื้อมาเปลี่ยนให้ จนมี กบ ตัวนึง ที่อ้างว่าเป็นเจ้าชาย ให้เธอจูบเพื่อจะได้คืนร่างเดิม เพราะเธอคือเจ้าหญิง เธอจึงจูบไป เเละเเล้ว เธอก็กลายเป็นกบเเทน ส่วนเจ้าชายนั้นก็ยังเป็นกบอยู่ดี เธอทั้ง 2 จึงได้หลุดเข้าไปในป่า เเละได้เจอเพื่อนสัตว์เช่น ลูอี่ จระเข้ชอบ Jazz , หิ่งห้อยจอมพูด เเละ พวกเขาทั้ง 2 จึงต้องไปหา มาม่าโอดี้ เพื่อทั้งคู่จะได้คืนร่างเดิม โดยมี พ่อมด ชั่วร้ายคอยขัดขวางอยู่





โดยสรุปการที่เราได้ดู The Princess And The Frog มันทำให้เรานึกถึงเรื่องแรกๆของ Disney พวกเจ้าหญิงนิทรา ซินเดอเรลา คือเนื้อเรื่องมันคงเป็นแบบที่ทุกคนเดาตอนจบได้แน่นอน แต่เรื่องนี้มันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะมันสอนให้เราได้นึกย้อนไปเกี่ยวกับอะไรหลายอย่างในชีวิตนะ  มีการดัดแปลงเนื้อเรื่องไปให้แตกต่างจากนิยายเดิม เราว่าเป็นไอเดียที่สร้างสรรค์ดี รวมถึงเพลงประกอบที่ไพเราะเป็นอย่างยิ่ง จนได้เข้าชิงเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในเวทีออสการ์ถึง 2 เพลง อยากให้ทุกคนได้ดูกัน เป็นเรื่องที่ดีสนุก ตลก และซาบซึ้งในแบบฉบับ Disney Original 




👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังรักคอมเมดี้ ได้ที่นี่

Monday, March 21, 2022

รีวิว Rebelde (2022) ดนตรีวัยขบถ ซีรีย์ฝรั่งแนวเพลงดนตรี

Rebelde (2022) ดนตรีวัยขบถ ซีรีย์ฝรั่งแนวเพลงดนตรี โรงเรียนเอลีตเวย์เปิดรั้วต้อนรับน้องใหม่เปี่ยมไฟฝัน แต่เส้นทางดนตรีอาจไม่ราบรื่นอย่างที่หวัง เพราะศัตรูเจ้าเก่าอย่างสมาคมลับที่มีชื่อว่า "เดอะลอดจ์" นักแสดงนำ:อาซุล กวยตา,ฟรังโก มาซีนี,เซอร์คิโอ เมเยอร์ โมรี


เรื่องราวของการตามติดชีวิตของนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่ Elite Way School วิทยาลัยชั้นนำของเม็กซิโก ท่ามกลางละครและดนตรีมากมาย ความหลงใหล มิตรภาพ และการแข่งขันจะเกิดขึ้นในเส้นทางของตัวเอก เซลิน่า เฟอร์เรอร์ (เอสเตฟาเนีย บียาร์เรอัล) อดีตนักเรียนนักศึกษากลายเป็นผู้อำนวยการคนใหม่ของโรงเรียน Elite Way ในขณะที่นักแสดงวัยรุ่นหน้าใหม่ และตัวเอกของการรีเมคจะสร้างวงดนตรีขึ้นมาใหม่จากละครต้นฉบับด้วยเพลงต้นฉบับและเพลงใหม่บางเพลง




สรุปแล้ว Rebelde (2022) ซึ่งเป็นละครเพลงแนววัยรุ่นชาวอาร์เจนตินาและเม็กซิโกที่นำกลับมาทำใหม่ นำเสนอเรื่องราวมิตรภาพของวัยรุ่น ความรัก การนินทา ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกที่ไม่สมบูรณ์ และความขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียน มีการตะโกนและกรีดร้องเป็นครั้งคราว สาปแช่งและแสดงท่าทางหยาบคาย และในบางครั้งการกลั่นแกล้งและเหตุการณ์รุนแรง รวมถึงการซ้อมที่นำไปสู่อุบัติเหตุครั้งใหญ่ บางครั้งอาจมองเห็น การดื่มและสูบไอและมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ (รวมถึงภาพเปลือยบางส่วนในช่วงสั้นๆ) โครงเรื่องและดนตรีอาจดึงดูดเด็ก ๆ แต่มีไว้สำหรับวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า อย่างไรก็ตาม คนที่ชอบเรื่องแบบนี้อาจจะรู้สึกสนุกและแหวกแนวพอที่จะดู



 
👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง ได้ที่นี่

Sunday, March 20, 2022

รีวิว Sunshine on Leith ภาพยนตร์ละครเพลงของ Stephen Greenhorn

Sunshine on Leith ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เพลงที่เรียกได้ว่าสุดประเมิน โดยเฉพาะเพลงจาก The Proclaimers ซึ่งจะทำให้ดูแล้วรู้สึกมีความสุขแผ่ซ่านไปทั้งตัว ในปี 2550 สตีเฟน กรีนฮอร์นสร้างละครเพลงที่ให้ความรู้สึกดีแก่โรงละคร Dundee Repertory ที่ชื่อว่า Sunshine on Leith ซึ่งรวบรวมเพลงฮิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Proclaimers ผ่านเรื่องราวเกี่ยวกับทหารสองคนที่เดินทางกลับบ้านที่เอดินบะระและพยายามตั้งหลักแหล่ง ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามและได้ออกทัวร์อย่างกว้างขวาง


เรื่องราว สร้างจากละครเวทีที่โด่งดังในชื่อเดียวกัน นำเสนอดนตรีโดยวงดนตรีป๊อป The Proclaimers ภาพยนตร์เรื่องนี้ติดตาม Davy และ Ally ที่ต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตในเอดินบะระอีกครั้งหลังจากกลับมาจากรับใช้ในอัฟกานิสถาน ทั้งคู่ต่างดิ้นรนเพื่อใช้ชีวิตนอกกองทัพและจัดการกับการต่อสู้ดิ้นรนของครอบครัว งานและความสัมพันธ์ในทุกๆ วัน



ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นอย่างแข็งแกร่ง ด้วยฉากเขตต่อสู้ในอัฟกานิสถาน ซึ่งทหารอังกฤษในยานเกราะต้องเผชิญกับความตาย ในขณะที่ร้องเพลง "Sky Takes the Soul" เวอร์ชันแคปเปลลา การเปิดอวัยวะภายในนั้นกระโดดไปยังเอดินบะระในอีกสองเดือนต่อมา ที่ฝูงบิน chums Davy ( จอร์จ แมคเคย์ ) และ Ally ( Kevin Guthrie ) กลับมาจากการปฏิบัติหน้าที่พร้อมที่จะเรียกคืนชีวิตของพวกเขา การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันจากการตายที่คับแคบไปสู่อิสรภาพและความเป็นไปได้ถูกจับได้ในขณะที่ทั้งสองออกเดินทางจาก "ความทุกข์ยากสู่ความสุข" ในหนึ่งในเพลงฮิตที่ใหญ่ที่สุดของวง "I'm On My Way"

👉👉 ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังสารคดี ได้ที่นี่

Saturday, March 19, 2022

รีวิว Bohemian Rhapsody ตำนานอย่าง เฟร็ดดี้ เมอร์คูรี่ หนึ่งในสมาชิกวง Queen

Bohemian Rhapsody  สิ่งเดียวที่ยิ่งใหญ่กว่าบทเพลงของพวกเขา คือเรื่องราวของเขา Bohemian Rhapsody พร้อมเผยเรื่องราวของร็อกเกอร์ในตำนานอย่าง เฟร็ดดี้ เมอร์คูรี่ หนึ่งในสมาชิกวง Queen แล้ว สำหรับ เฟร็ดดี้ เมอร์คูรี่ แล้ว ไม่ใช่แค่หน้าตาเท่านั้นที่ทำให้เขากลายเป็นศิลปินขวัญใจแฟน ๆ แต่เสียงอันทรงพลังและการแต่งกายสีสันบาดตา มันก็ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่น่าจดจำไม่แพ้กัน 


เรื่องราวในแง่มุมที่ไม่เคยรู้เห็นมาก่อนอย่างเช่น เฟรดดี้ เคยมีความรักกับผู้หญิง และเขาไม่สมาชิกดั้งเดิมของวง ได้เห็นเบื้องหลังการสร้างสรรค์บทเพลงอมตะอย่าง Bohemian Rhapsody ที่กว่าจะสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย ได้รู้ที่มาของเพลงฮิตอย่าง We Will Rock You , Another One Bite Of Dust ที่มาจากมันสมองของไบรอัน เมย์ และ จอห์น ดีคอน ไม่ใช่ว่าทุกเพลงฮิตจะมาจากเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่เท่านั้น ถึงแม้ว่าเขาคือมันสมองและเป็นสีสันฉูดฉาดของวง หนังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของคำว่าเพื่อนแท้ และครอบครัว ที่เข้าใจและยอมรับในตัวของเฟรดดี้ว่า มันส่งผลต่อชีวิตคนเรามากน้อยแค่ไหน และยังจิกกัดพวกที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ผลประโยชน์ที่มาคอยกัดกินเราอีกด้วยหนัง casting นักแสดงมาได้ดีมากๆ การแสดงของ "รามี่ มาเลค" คือโคตรเข้าถึงอินเนอร์ ทำให้เราเชื่อจริงๆ ได้ว่านี่แหละคือเฟรดดี้ ส่วนนักแสดงสมทบทั้ง 3 ที่เป็นเพื่อนๆ ในวงนั้น ถามไถ่จากคนที่เป็นแฟนๆ วงควีนแล้ว ต่างพูดเป็นคนละเสียงแต่ความหมายเดียวกันว่าโคตรเหมือน



สรุปสิ่งที่หนังขาดหายไปด้วยสเกลหนังที่ค่อนข้างกว้าง แค่นี้ก็ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมงกว่าแล้ว ทำให้หนังไม่ได้เจาะลึกลงไปในจิตใจเฟรดดี้มากกว่านี้ ทั้งๆ ที่ประวัติของตัวเฟรดดี้เอง สามารถขยี้ให้เราอินและร้องหนักๆ ได้เลย เป็นจุดที่ทำให้หลายๆ คนไม่อิน ว่าทำไมเฟรดดี้ถึงเป็นคนแบบนี้ เป็นคน crazy สุดโต่งขนาดนี้ได้  อย่างไรก็ตามเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของหนังดราม่าชีวประวัติกับหนังเพลง แม้จะเป็นเรื่องราวของวงควีน ได้ฟังเพลงฮิตมากมายบนจอ แต่หนังก็ไม่ได้อัดเพลงมาแน่นจนเกินไป ไม่มีเพลงไหนที่ใส่มาเต็ม ๆ จนจบเพลง แต่ก็ไปปล่อยเต็มในฉากไลฟ์เอดท้ายเรื่องที่ให้เราได้ฟังควีนเล่นหลายเพลงฮิตยาวเป็นเมดเลย์กันแบบจุใจ รักเฟรดดี้ ชอบควีน ไม่ควรพลาดนะค่ะ 


👉👉  ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส ได้ที่นี่

Friday, March 18, 2022

รีวิว ทำนองรักในหัวใจ WISH YOU : Your Melody In My Heart (2020)

WISH YOU : Your Melody In My Heart (2020)  ซีรีย์วาย 8 ตอน ตอนละ 10 นาที แต่คุณภาพกลับคับแน่นในทุกตอน ไม่ว่าจะงานภาพ เสียง นักแสดง หรือบทที่กระชับรวดเร็ว ก็ล้วนสมบูรณ์แบบ ถูกใจคอสาววายกันเลยทีเดียว กับเรื่องราว นักร้องนักแต่งเพลงมากพรสวรรค์กับมือคีย์บอร์ดรุ่นเดียวกันต่างได้เข้ามาเติมเต็มความรักและความลงตัวในชีวิตของกันและกัน


เรื่องราวของนักร้องอิสระที่มีใจรักในเสียงดนตรีทำให้เขาแสดงบนท้องถนนชีวิตของคังอินซูวนเวียนอยู่กับดนตรี อินซูได้รับการสนับสนุนจากเพื่อน ๆ ของเขาหวังว่าสักวันหนึ่งจะเปลี่ยนความรักในดนตรีให้กลายเป็นอาชีพเต็มเวลา แต่การทำเช่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อินซูปฏิเสธที่จะล้มเลิกความฝันของตัวเองอินซูยังคงทำงานอยู่ตลอดทั้งวันในขณะที่เพื่อนสนิทของเขาชเวมินซองบันทึกการแสดงและอัปโหลดของเขาบน YouTube ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าการแสดงของอินซูได้รับความสนใจจากใครบางคนที่สามารถเปลี่ยนชีวิตนักดนตรีหนุ่มไปตลอดกาล นักคีย์บอร์ดที่ทำงานใน บริษัท แผ่นเสียงรายใหญ่ยุนซางยีมักมองหาความสามารถใหม่ ๆ หลังจากสะดุดกับวิดีโอของ In Soo ซังยีได้กลายเป็นหนึ่งในแฟนตัวยงของนักร้อง เพราะเชื่อว่าอินซูสามารถทำให้มันยิ่งใหญ่ได้เขาแนะนำให้ศิลปินหนุ่มเข้าร่วมโครงการค้นพบหน้าใหม่ของ บริษัท เมื่อเห็นโอกาสนี้ในคำเชิญนี้อินซูจึงตอบรับข้อเสนอและในไม่ช้าก็ย้ายเข้าที่พักของ บริษัท กับซางยี เมื่อทั้งสองอยู่และทำงานร่วมกันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เติบโตขึ้นอย่างช้าๆความรู้สึกใหม่ ๆ ก็เริ่มผลิบาน น่าเสียดายที่เมื่อความรู้สึกของพวกเขาเติบโตขึ้นอุปสรรคที่ขวางทางพวกเขาก็เช่นกัน




โดยสรุปภาพรวม นักแสดงนำของเรื่องที่ได้อินซูจากวงMYNAME และอีซังจากวงIMFACT ด้วยที่ทั้งคู่ต่างก็เป็นไอดอลบอยกรุ๊ป ทำให้เรื่องการร้องเพลงหรือการเล่นดนตรีมันไม่ดูขัดตาแต่อย่างใด แต่กลับดูมืออาชีพไม่ต้องเล่นมั่วๆหรือร้องเพลงแบบลิปซิงค์ทำให้การแสดงของพวกเขามันเหมือนเล่นออกมาจากตัวตนจริงๆไม่ใช่การแสดง เพราะพวกเขาทั้ง 2 คนต่างก็เป็นศิลปินที่เข้าใจแก่นของตัวละครที่ต่างก็รักในเสียงเพลงได้เป็นอย่างดี ทั้งคู่ถ่ายทอดความเป็นอินซูและซังอี ออกมาได้ละมุน ชวนฟินตลอดเวลา ขอแค่เห็นทั้ง 2 คนอยู่ใกล้กันเมื่อไหร่คนดูมีอันต้องอุดปากกรี๊ด เพราะออร่าและเคมีของทั้ง 2 คนคือมันได้มากกก !!! 



👉👉  ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ข่าวบันเทิง ได้ที่นี่

13 The Musical (2022) รีวิวภาพยนต์เพลงและดนตรีจาก Netflix

 13 The Musical (2022) รีวิวภาพยนต์เพลงและดนตรีจาก Netflix เรื่องราวของ อีแวนด์ โกลด์แมน เด็กหนุ่มที่ย้ายมาจากโรงเรียนในนิวยอร์คตามครอบครัว ...