Tuesday, March 30, 2021

รีวิวหนังเรื่อง Mamma Mia Here We Go Again- สนุกสนานไปด้วยเสียงเพลง

 


ในการตัดสินใจลองดูในตอนแรกก็แอบคิดนะว่ามันจะดีหรือว่ะ เปลี่ยนผู้กำกับจากภาคแรกมาเป็น โอล พาร์คเกอร์ ที่พี่แกทำผลงานเรื่อง Now Is Good ออกมาก็ไม่ได้มีความเชื่อมอะไรถึง เรื่อง Mamma Mia Here We Go Again เลย โอเคภาคแรกทำไว้ดีเราก็คาดหวังแบบที่พอรับได้เพราะยังได้นัแสดงอย่าง ลิลลี เจมส์ เธอสวยและเป็นนักแสดงที่เก่ง แต่แล้วเมื่อได้ดูถึงกับร้อง OMG มันดี สนุกมีเพลงเพราะๆมันและเรื่องราวก็ไม่ได้แตกออกจากเดิมเลย มันไปต่อได้มันโอเค



ปู เซ็ตติ้ง (setting) เป็นเรื่องราวหลัง ตัวละครดอนน่าของเมอรีล สตรีพในหนังภาคแรกเสียชีวิต แล้วเลือกภารกิจหลักให้ โซเฟีย พลิกฟื้นโรงแรมเก่าของเธอ ซึ่งตรงนี้หากบทไม่แข็งแรงพอ มันจะกลายเป็นหนังเพลงภาคต่อราคาถูกทันที แต่ด้วยความพิถีพิถันในการถักทอเรื่องราว เราเลยได้เห็นภาพสะท้อนของดอนน่าในวัยสาวที่มีทั้งความบ้าบิ่นและอ่อนไหว สดใสแต่เปราะบาง มาใช้อธิบายสภาวะเจอมรสุมชีวิตและมรสุมอากาศที่อาจพังความฝันของ โซเฟีย ในชั่วพริบตาได้อย่างชาญฉลาดเป็นอย่างยิ่ง และที่ยิ่งเซอร์ไพรส์คือหนังยังใช้เพลงของ แอบบา ได้เข้ากับสถานการณ์มากกว่าหนังภาคแรก ควบคู่ไปกับการออกแบบฉากมิวสิคัลที่ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยความซับซ้อนในเชิงมิวสิคัลและยังทำงานร่วมกับ มิสอองแซงในทางภาพยนตร์ได้อย่างลงตัว

 


โดยส่วนตัวประทับใจการกำกับซีนมิวสิคัลของหนัง 3  ฉากเป็นพิเศษคือเพลง วอเตอร์ลู (Waterloo) ที่เป็นการอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างดอนน่า และแฮรี่ในวัยหนุ่มสาวที่นอกจากเสียงร้องอันทรงพลังของลิลลี เจมส์ และฮิวจ์ สกินเนอร์ แล้ว การออกแบบท่าเต้นทั้งตัวหลักและอองซอม (Ensemble Performers- นักแสดงประกอบที่ต้องร้องและเต้นเพื่ออธิบายสถานการณ์ของตัวละครหลักในละครเวทีประเภทมิวสิคัล) ยังเต็มไปด้วยพลังงานมหาศาลผนวกการถ่ายภาพของโรเบิร์ต โยแมน (ตากล้องคู่บุญของผู้กำกับ เวส แอนเดอร์สัน) ที่ทำให้ทุกเฟรมเต็มไปด้วยความครึกครื้นทั้งสีสันที่ทีมกำกับศิลป์วางไว้และการจับความเคลื่อนไหวในกรอบภาพได้อย่างงดงาม

 


ส่วนเพลง I have a dream ก็ถูกนำมาถ่ายทอดด้วยการเล่าเรื่องด้วยเพลงและภาพได้อย่างหมดจด สามารถถ่ายทอดการส่งต่อความฝันด้วยการตัดสลับซีนระหว่าง ดอนน่า วัยสาวที่ค้นพบโรงแรมพังๆแห่งนี้กับการเกิดใหม่อย่างใจฝันของโซเฟียที่ปรับปรุงโรงแรมเบลลาดอนน่าขึ้นใหม่เพื่อแม่ที่จากไปของเธอได้อย่างงดงามจนใครที่บ่อน้ำตาตื้นต้องมีรื้นๆกันบ้างแหละ

 


และหากใครรู้สึกเซ็งหนังภาคแรกที่ถ่ายทอดฉากมิวสิคัลเพลง แดนซิงควีน (Dancing Queen) เพลงฮิตระดับตำนานของวงแอบบาได้อย่างไม่สมศักดิ์ศรี หนังภาคนี้คือการชดเชยที่สาแก่ใจมาก เพราะมันถูกออกแบบมาเพื่อเฉลิมฉลองความสุขของตัวละครทุกตัวในเรื่อง และถูกจัดวางให้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญ แถมยังออกแบบซีนนี้ได้อย่างอลังการด้วยการร้องและเต้นของตัวละครหลักและอองซอม บนเรือสำราญใหญ่ยักษ์หลายลำ ก็ทำให้ภาพออกมาอลังการและน่าประทับใจสมศักดิ์ศรีเพลงในดวงใจตลอดกาลของใครหลายคนเป็นอย่างยิ่ง

Monday, March 29, 2021

รีวิวหนัง เรื่อง Shrek เชร็ค 1

 


ยักษ์สีเขียวตัวใหญ่ชื่อ เชร็ค ที่อาศัยอยู่ที่บ่อน้ำในป่า ไม่ไกลปราสาทของเจ้าชายเมืองแห่งหนึ่ง เชร็ค เป็นยักษ์ที่ชอบความสันโดษ ไม่ชอบอยู่กับใครด้วยเพราะคิดว่าตัวเองเป็นที่รังเกียจและเกรงกลัวของผู้คน วันหนึ่งมีเหตุที่ทำให้เชร็คต้องเดินทางไปยังเมืองของเจ้าชาย และยังได้รู้จักกับลาพูดได้ ชื่อ ดองกี้ ต่อมากลายเป็นเพื่อนซี้กัน เชร็คกับ ดองกี้ ได้รับภารกิจให้ไปช่วยเหลือเจ้าหญิงฟีโอน่า ที่ถูกขังอยู่บนประสาทหอคอยสูงใหญ่ที่มีมังกรตัวใหญ่นอนเฝ้าอยู่ งานนี้จะลงเอ่ยอย่างไรโปรดติดตาม

 


หนังเรื่องนี้ดูสนุกและเพลินด้วยความตลกของเชร็คที่เป็นยักษ์ใหญ่ท่าทางดุร้ายแต่ลึกๆ แล้วใจดีกับเพื่อนคู่หู ดองกี้ ที่พูดไม่หยุด ทำให้ผู้ชมตกหลุมรักพวกเขาได้โดยง่าย หนังยังให้แง่คิดที่ว่า คนเราอย่าติดสินคนอื่นเพียงเพราะรูปลักษณ์ภายนอก



อยากดูซีรีส์ฟินดูได้ที่นี่ ซีรีย์วาย

Sunday, March 28, 2021

รีวิวหนัง เรื่อง Lion King



เป็นอนิเมชั่นที่แอดชอบ ชอบตัวหมูป่า ทุกรายละเอียด ทำให้ฉากที่ตราตรึงในวัยเด็ก 1994 หวนกลับมาอีกครั้ง เก็บงานแม้กระทั่งมุมกล้อง มดบนต้นไม้ สีนกบนงาช้าง แถมมีการเสริมรอยต่อคัทซีนให้มันดูต่อเนื่อง สมเหตุสมผลมากขึ้น ตีความหมายข้อคิดต่างจากของเดิมนิดหน่อย บทพูดธรรมชาติขึ้น แต่จุดที่ชอบคือหนังปิด plot hole จากต้นฉบับได้ดี ตัวละครฉลาดขึ้น และมีแรงจูงใจน่าเชื่อถือ



แอนิเมชั่นสัตว์ต่างๆ ใช้ Ref ของจริงเกือบ 90% ทีมงานรีเสริชมาได้เก่งโคตรๆ เป๊ะทุกท่าทางทั้งเดิน ย่อง สะบัดหัว กระดิกหู ม่านตายังปรับตามแสง บอกได้คำเดียวว่าสุดทรีนจริงๆ สารคดียังอาย ถึงมีข้อกำจัดทางสรีระที่ทำให้แสดงอารมณ์ยาก แต่หนังก็พยายามถ่ายทอดนิสัยของตัวละครสุดฝีมือแล้ว



เพลงเวอร์ชั่นไทยบอกตรงๆ ว่าเหนือความคาดหมายไปเยอะ ด้วยพลังเสียงของแก้ม วิชญาณี และเทคโนโลยียุคใหม่ ก็ช่วยขับให้เพลงเมื่อ 25 ปีที่แล้ว มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งเคารพเนื้อร้องต้นฉบับ และเติมแต่งท่วงทำนองทรงพลังยิ่งขึ้น ช่วยแบกหนังให้รอดถึงฝั่งได้อย่างไม่ทุลักทุเลนัก

เพลงที่รู้สึก เฮ้ย! มันเจ๋งไปอีกแบบว่ะ ได้แก่ Circle of life, I just can't wait to be king, Hakuna Matata




Friday, March 26, 2021

รีวิวหนัง Enchanted มหัศจรรย์รักข้ามภพ

 


“จีเซลล์” หญิงสาวผู้อาศัยอยู่ในกระท่อมร่วมกับเพื่อนสัตว์ป่าน้อยใหญ่ในโลกการ์ตูนเทพนิยายอันดาเลเชียอย่างสงบสุขและวาดหวังว่าสักวันจะได้พบกับเจ้าชายและได้รับจุมพิตจากรักแท้อยู่ร่วมกันชั่วนิรันดร์ จนกระทั่งเธอได้พบกับ “เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด” ที่เข้ามาช่วยเธอไว้จากยักษ์โทรลทำให้ทั้งคู่ตกหลุมรักกันและเตรียมแต่งงานกันในวันรุ่งขึ้นแต่เมื่อจีเซลได้เดินมาถึงปราสาทก็กลับถูกแม่เฒ่าที่แท้จริงคือราชินีแม่เลี้ยงเจ้าชายขัดขวางไว้เสียก่อน ด้วยความอิจฉาไม่ต้องการให้ใครมาแย่งบัลลังก์ไปจากนาง นางจึงผลักจีเซลตกลงไปในบ่อน้ำส่งผลให้เธอได้ข้ามมาสู่โลกแห่งความจริงที่นิวยอร์ก และได้รับความช่วยเหลือจาก “โรเบิร์ต”พ่อหม้ายลูกเล็ก

 


ระหว่างรอเอ็ดเวิร์ดตามมาช่วย จีเซลจึงคิดจะตอบแทนโรเบิร์ตโดยพาเขาไปเรียนรู้ให้เห็นถึงรักแท้และเปลี่ยนจิตใจที่ด้านชาของเขาให้กลับมามีความสุขอีกครั้ง ทำให้ทั้งคู่เริ่มตกหลุมรักกันด้วยเวทมนตร์จากบ่อน้ำทำให้เจอกับพระเอก ต่างคนต่างก็ได้เรียนรู้กันและกัน พระเอกทำให้นางเอกรู้ถึงปัจจัยที่ทำให้คนมีความรักกันซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ได้สบตาหรือเจอกันเพียงไม่นานและนางเอกก็ทำให้พระเอกเกิดศรัทธาในความรักอีกครั้ง เพราะตั้งแต่ภรรยาที่รักของเขาเสียไป พระเอกก็เอาแต่ฝังใจไม่เชื่อในรักแท้ที่อยู่ด้วยกันชั่วนิรันดร์อีกต่อไปซึ่งแท้จริงความรักชั่วนิรันดร์นั้นไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า แต่เป็นการที่เราเก็บเกี่ยวความทรงจำและยังคงมีความสุขที่ได้จดจำว่าเคยรักเขาอย่างไรต่างหาก

 


ตัวหนังมีการดำเนินเรื่องที่รวดเร็ว ไม่เอื่อยเฉื่อย และลุ้นทุกฉากว่าเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดจะตามหาเจ้าสาวของตัวเองเจอในเมืองที่กว้างใหญ่และแปลกตาเช่นนี้หรือไม่ แล้วนางเอกจะรอดจากแผนการร้ายของลูกสมุนราชินีที่ตามมาประกบเจ้าชายหรือไม่ แต่ที่ทำให้เด็ก ๆ ชอบมากที่สุดก็เห็นจะเป็นเหตุการณ์หลักมากมายในหนังที่เหมือนรวมเอาความเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์มากมายมาใส่ไว้ให้เราหายคิดถึงด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นฉากที่ราชินีแปลงเป็นมังกรเหมือนเรื่องเจ้าหญิงนิทรา ฉากที่นางเอกถูกหลอกให้กินแอปเปิ้ลอาบยาพิษจากเรื่องสโนไวท์ ฉากที่นางเอกอยู่ในน้ำแล้วร่างก็เปลี่ยนไปเหมือนในเรื่องเจ้าหญิงเงือกน้อยแอเรียล และการที่ต้องมาอยู่กับพระเอกที่หัวใจปิดตายคล้ายเรื่องโฉมงามกับเจ้าชายอสูร ทุกอย่างลงตัวมาก

Thursday, March 25, 2021

รีวิว The Little Mermaid – เงือกน้อยผจญภัย

 


เรื่องราวของนางเงือกน้อยที่เราคุ้นกันมาตั้งแต่เด็กและในเวอร์ชั่นการ์ตูนแต่วันนี้เราจะมารีวิวในเวอร์ชั่นคนแสดงจริงๆโดยเป็นการเล่าเรื่องจากคุณย่าท่านหนึ่งที่เล่าให้หลานๆฟัง และคุณย่าปิดท้ายประโยคว่า แต่เรื่องราวจริงๆไม่ใช่แบบนี้หนังถูกเล่าเป็นนิทานก่อนนอน ให้หลานๆฟังเป็นเรื่องราวของ นักข่าวหนุ่มผู้ไม่ยอมเชื่ออะไรง่ายๆ และเขาก็ได้พบกับนางเงือก และทันใดนั้นเองเขาก็เริ่มรู้สึกหลงรัก และเรื่องราวการผจญภัยก็เริ่มต้นขึ้น



เรื่องย่อ นักข่าวหนุ่ม Cam ผู้ซึ่งไม่ยอมปักใจเชื่ออะไรง่ายๆ เขาใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวแสนสวยที่เธอป่วยเป็นโรคที่หาสาเหตุไม่ได้ เพื่อที่จะทำการรักษาอาการป่วยของน้องสาวเขาจึงได้เข้าไปทำข่าวเกี่ยวกับ น้ำ ที่สามารถรักษาทุกโรคได้ และนั้นเองทำให้เขาพบกับ นางเงือก





ตัวหนังไม่ได้สนุกเวอร์ แต่ก็สามารถนั่งดูได้เรื่อยๆเพลินๆ คนที่แสดงเป็นนางเงือกสวยมากๆ ช่วงแรกๆของหนังดูมีความลึกลับซับซ้อนเยอะเหมือนพยายามผูกปมไว้ให้คนดูสงสัย แต่ช่วงหลังจากเฉลยแล้วหนังก็ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เอาเป็นว่า ดูได้แต่อย่าไปคิดอะไรมาก ดูเพลินๆก็พอ

ยังมีซีรีย์ให้ดูอีกเยอะเลย ซีรี่ย์เกาหลี

Wednesday, March 24, 2021

รีวิว หนังเรื่อง Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ

 


การ์ตูนอนิชั่นเรื่องนี้เป็นขวัญใจทั่งเด็กแล้ผู้ใหญ่ไปแล้ว สำหรับ Frozen ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่อง The Snow Queen โดยอาณาจักรทั้งอาณาจักรต้องตกอยู่ในความหนาวเย็นโดยเจ้าหญิงแอลซ่า เจ้าหญิงอันนาผู้น้องจึงร่วมมือกับคริสทอฟและกวางเรนเดียร์คู่หูออกเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ตามหาเจ้าหญิงแอลซ่าเพื่อยุติความหนาวเย็นที่ปกคลุมอาณาจักรไป



แต่มันก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะเขาจะสร้างมันออกในแบบที่มีตัวละครร้องเพลง สลับกันไปกับการพูดสนทนา ผ่านเรื่องราวสไตล์เจ้าหญิงเจ้าชาย แต่มีพระเอกเป็นคนธรรมดา หนังเรื่องกำกับโดย Chris Buck และ Jennifer Lee ซึ่งทั้งสองคนก็นำเค้าโครงเรื่องมาจาก “The Snow Queen” ของ Hans Christian Andersen อีกทีครับ

 


เรื่องราวที่ย้อนไปในวัยเด็กของพี่น้องสองสาวที่เป็นสาเหตุของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งหมด เอลซ่า (Idina Menzel) พี่สาวที่เกิดมาก็มีพลังเยือกแข็ง จับต้องสิ่งใดก็จะเย็นจัดน้ำแข็งจับ วาดมือไปทางใดก็ฟาดน้ำแข็งใส่ได้ เดินผ่านที่ใด ที่นั่นก็กลายเป็นน้ำแข็งได้ ความที่ยังไม่สามารถควบคุมพลังของตนได้ พลั้งมือไปจึงถูกกันแยกต่างหากกับอันนา (Kristen Bell) น้องสาวตัวเอง จนถึงวันที่ต้องขึ้นรับตำแหน่งราชินี



นอกเหนือไปจากสองสาวเจ้าหญิงแห่งเมืองนี้แล้ว ก็ยังจะมีตัวละครชายสองตัวที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คนหนึ่งเป็นเจ้าชายและอีกคนเป็นมนุษย์หิมะที่ร่วมเป็นตัวหลักในการดำเนินเรื่องที่เรียงร้อยด้วยกันเพลงเพราะๆ จากปากของตัวละครต่างๆ ในสไตล์ละครบรอดเวย์ คือ พูดบ้างร้องบ้างสลับๆ กันไป นานพอสมควรที่เราไม่ได้เห็นแอนิเมชั่นเพลงแบบนี้ ล่าสุดที่เคยประทับใจกันไปจากดิสนี่ย์ก็คงจะเป็น ‘Tangled’ หรือ ราพันเซล นั่นแหล

 

Tuesday, March 23, 2021

รีวิว Beauty and the Beast | โฉมงามกับเจ้าชายอสูร

 


ต้องถือว่าหนังเรื่องนี้ ก่อนนี้ก็เคยเป็นการ์ตูนอนิเมชันมาก่อนยังทำให้หลายๆคนประทับใจกันมาก และถึงเวลานี้ เจ้าหญิงเบลล์ จะได้ออกมาจากนิทานมาเป็นคนจริงๆ และการคาดหวังของหลายคนก็คงไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเรื่องเพลง หรือเสื้อผ้า และความสมจริง หรือจะมีความแตกต่างหรือไม่จากภาคอนิเมชันที่แล้วมา



ความสุขของการดูหนังที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหญิงดิสนีย์ก็คือ ความรักของเธอกับเจ้าชายที่สุดท้ายก็มักจะลงเอยกันโดยจำต้องผ่านอุปสรรคบางอย่างไปก่อน หนังให้คติความคิดบางอย่างที่ออกจะเป็นการมองโลกในแง่ดี และเป็นประเด็นง่ายๆ ที่เด็กจะหยิบจับต้องได้ และโดยเฉพาะผู้ชมที่เป็นฝ่ายหญิง



แม้จะไม่ถึงขั้นแฟนพันธุ์แท้หนังเจ้าหญิงดิสนีย์ แต่ก็พอเห็นอยู่บ้างว่า หนังมีการหยิบเอามุมมองของฉากต่างๆ ที่ผู้คนจดจำของเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นมาสร้างใหม่ในแบบคนแสดงแทบจะไม่ต้องเล่าเรื่องราวอะไรเลยก็ได้ เพราะมันแทบจะไม่แตกต่างกันเลย มีความแฟนเซอร์วิสค่อนข้างจริงจังหนังค่อนข้างจะเดินเรื่องด้วยการร้องเพลงกันมากพอสมควร จะมีช่วงเวลาพูดคุยกันจริงๆ ไม่มากเท่าไหร่ ถ้าใครชอบเพลงเพราะๆ หนังเรื่องนี้มีมาให้อย่างเต็มอิ่ม กลับกันถ้าคุณไม่ชอบหนังที่มีแต่เพลงก็อาจจะรู้สึกว่ามันเยอะไป

 


และการดูหนังที่ร้องกันแต่เพลง มีผลให้ต้องอ่านซับไตเติลมากขึ้นกว่าเดิมด้วย เพราะบทกวีที่ร้องเป็นเสียงสูงต่ำมันจะจับคำได้ยากกว่าการพูดสนทนากันตามปกติแม้ว่าช่วงเวลาของการอยู่ร่วมกันของสองพระนางจะดูสั้นไปนิด จนหลายบ่นว่ารักกันง่ายเกินไป แต่ดูเหมือนในเวอร์ชั่นคนแสดง จะมีการเพิ่มเติมบางบทเข้ามาเพื่อเสริมความน่าเชื่อถือให้กับตัวเรื่องราวมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องราวเบื้องหลังแฟลชแบ็กกลับไปเล่าเรื่องในอดีตของเบลล์


อยากดูซีรีย์เกาหลีใหม่ๆ ที่นี่มีให้ดูก่อนใคร ดูซีรี่ย์เกาหลี

Monday, March 22, 2021

รีวิว หนัง เรื่อง Aladdin – อะลาดิน

 


เป็นหนังของดิสนีย์ ที่ชอบมากอีกหนึ่งเรื่อง ดูไม่น่าเบื่อเสื้อผ้าสวย รูปแบบทั้งเสียงเพลง เสียงดนตรีเพราะๆ และมุกตลกที่หนังปล่อยออกมาเรื่อยๆ แบบทำให้ขำไหล่สั่นได้ตลอด นี่แม่งหนังตลกชัดๆ เป็นช่วงเวลา 2 ชั่วโมงที่ทำให้เราหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของ Aladdin ได้จริงๆ



หนังเกลี่ยบทได้ดีมากกกก ตัวละครทุกตัวดูมีมิติ มีเสน่ห์ มีบทบาทที่น่าจดจำไม่ว่าจะเป็นนางกำนัลของเจ้าหญิง ลิงน้อย หรือแม้กระทั่งพรมวิเศษทุกตัวละครพร้อมแย่งซีนตลอดเวลา แต่หนังก็ยังให้น้ำหนักไปที่ตัวหลัก 3 คนอย่าง อะลาดิน-จัสมิน และจีนี่ ให้โดดเด่นกว่าคนอื่นได้อย่างได้ดีและเหมาะสม



ด้าน “วิลล์ สมิธ” ที่โดนวิจารณ์อย่างหนักจากตัวอย่างแรก ก็แสดงได้ดีเล่นใหญ่ตบหน้านักวิจารณ์โคตรๆ เล่นเป็น Genie ได้มีเสน่ห์สุดๆ ลบคำครหาได้อย่างสมศักดิ์ศรีจริงๆ ส่วนตัวพระเอกอย่าง "เมน่า แมซซุด " เองแม้จะดูไม่โดดเด่นอะไร แต่กลับยิ่งเล่นยิ่งมีเสน่ห์ไม่น้อยเหมือนกัน



ช่วงต้นเรื่องต้องบอกว่าหนังใช้เวลาปูเรื่องสักพักประมาณ 30-40 นาทีได้ ซึ่งจัดว่าน่าเบื่อเลยแหละ จะเบื่อมากน้อยก็แล้วแต่คน แต่ในความเนือยนั้นมันเป็นการเผยนิสัยตัวละครให้เราได้รู้จัก จะได้อินกับมันมากขึ้นในช่วงฉากสำคัญๆ ในหนังหนังมาสนุกขึ้นเรื่อยๆ แบบฉุดไม่อยู่เมื่อ "อะลาดิน" ถูไถๆ ตะเกียงวิเศษเป็นครั้งแรก และนั่นทำให้ "จีนี่" ออกมาปล่อยของรัวๆ เป็นจีนี่ที่ดีดมากดีดโคตรๆ ไม่รู้พี่แกดูดม้ามารึเปล่า ซึ่งมันช่วยให้หนังดูสนุก มีสีสันมากขึ้นเป็นกองเลยจริงๆ



Sunday, March 21, 2021

รีวิวหนังเรื่อง August Rush ทั้งชีวิตขอมีแต่เสียงเพลง

 


เมื่อเด็กคนหนึ่งมีประสาทการรับรู้ทางเสียงที่แสนพิเศษ ทำให้เขารับรู้เสียงของทุกสิ่งอย่างชัดเจน ทุกสิ่งคือเสียงดนตรี ในว่าจะในสายลม ในอากาศ ในแสงสว่าง แต่เขากลับไม่สมบูรณ์ในด้านครอบครัวเพราะเขาไม่รู้ว่า พ่อแม่ของเขาเป็นใคร อยู่ที่ไหน



ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาดั่งนิทานเรื่องหนึ่ง พาเราไปพบกับการตามหาพ่อแม่ที่เหนือจินตนาการ การใช้เพียงหูเพื่อตามหาไม่ใช่เรื่องที่ธรรมดาในโลกความจริง แต่เมื่อมันอยู่บนแผ่นฟิล์ม มายาจึงบังเกิด Evan Taylor เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หรืออะไรเทือกๆ นั้น เข้าไม่รู้ว่าพ่อแม่อยู่ที่ไหน แต่วันหนึ่ง เขาก็เดินออกจากบ้าน ไปตามหาบุคคลผู้ให้กำเนิด



 ในวันวาน Lyla Novacek แม่ของเขา เป็นนักเชลโลจากสถาบันที่มีชื่อเสียง ส่วน Louis Connelly พ่อของเขาก็เป็นชายหนุ่มรูปหล่อ มือกีตาร์และนักร้องที่กำลังสร้างชื่อ ทั้งสองต่างชอบในสิ่งที่แตกต่าง แต่มีจุดร่วมเดียวกันคือดนตรี วันที่พวกเขามาเจอกัน มันเหมือนกับการได้เจอเนื้อคู่ แม่เหล็กต่างขั้วดึงดูดเข้าหากันเพื่อแค่ถูกวางให้อยู่ใกล้ๆ แต่โชคชะตาเล่นตลก พัดพาให้ต่างต้องพลัดพรากกันไปผมชอบในเนื้อหาเกินจริงของหนังเรื่องนี้จริงๆ เด็กคนหนึ่งที่อัจฉริยะเกินมนุษย์จนผมนึกไปว่า เขาต้องเป็นมนุษย์ต่างดาวแน่ๆ พอๆ กับพ่อแม่ของเขา ต่างสื่อถึงกันได้ด้วยเสียงดนตรี ด้วยหูทั้งสองข้างของตน เสียงดนตรีที่ไพเราะโดนใจ ใครที่รักเสียงเพลงคงชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยาก



หนังซึ่งๆอบอุ่นๆมีที่ รีวิวหนังรักเพลงดนตรี

Saturday, March 20, 2021

VYRA ประเดิมคนแรก นิว ชัญญาภัค สาวน้อยสดใส ในคลิปทีเซอร์

 


ต้นสังกัด ยูนิต LYRA Universal Music Thailand ส่งจดหมายชี้แจง เรื่อง การยุติบทบาทของ เนย กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล ในฐานะสมาชิกวง LYRA ขอกลับไปโฟกัส ทุ่มเท ให้กับ BNK48 อย่างเต็มที่ โดยมีบทสัมภาษณ์จาก คุณพอล สิริสันต์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค (ประเทศไทย) และ คุณณัฐพล บวรวัฒนะ CHIEF OPERATING OFFICER บริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ iAM ต้นสังกัดดูแลศิลปินไอดอลหญิงวง BNK48 ขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมว่า และ คุณรอ เนย BNK48 ไลฟ์ ทางแอ iAM48 ตอน 16.00 น. วันนี้



โดยตอนนี้ เนย BNK48 ได้ไลฟ์ พูดเล่าถึงสาเหตุที่ออกจาก LYRA: โดยเนื้อหาคร่าว ๆ คือ "ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะคะ รู้จักตัวเองมากขึ้น รู้ว่าตัวเองชอบที่จะทำอะไร เป็น เนย BNK48 ที่แข็งแรง และจะสนับสนุน LYRA ตลอดไป อยากขอบคุณทุกคนด้วย ตอนแรกรู้มานานแล้วว่าจะประกาศช่วงนี้ ร้อนรนและกังวลนิดนึง ว่าทุกคนจะยังไงนะ กลัวทุกคนจะผิดหวัง แต่หนูตัดสินใจแล้ว ขอบคุณน้อง ๆ ทุกคนที่เป็นห่วงหนู เรารับรู้ได้ น้องอีก 5 คน หนูมีความสุขมากที่ได้ร่วมงานกัน พี่เนยสัญญาเลยค่ะ น้อง ๆ สู้ ๆ"




Wednesday, March 17, 2021

รีวิวซีรีย์ Do You Like Brahms?



ซีรีย์เรื่องนี้ เป็นอะไรที่น่ารักมาก คือสามารถดูไปอบยิ้มไปได้ ไม่หนักเป็นหนังที่เบาๆ ซึ่งเป็น ซีรีส์ดนตรีที่ 1 ในใจ ทั้งที่ไม่ได้ทำตามสูตรของซีรีส์ดนตรีซึ่งเน้นการเแข่งขัน แต่เรื่องนี้เป็นแนวรักแบบ Hexagon Love หรือรักหกเส้า? จริงๆ มันคือรักสามเส้า 2 วงมาซ้อนกันสิ่งที่เชื่อว่าทำให้หลายคนเทเรื่องนี้ไปในช่วงแรกๆ คือความช้าของเนื้อเรื่อง แต่พอดูไปเรื่อยๆ คุณจะพบว่ามันไม่ธรรมดา แถมมีของอย่างแรงด้วย เนื่องจากการเน้นการนำเสนออารมณ์เบื้องลึก emotional มาเต็ม



สิ่งที่ทำให้เรื่องขึ้นไปอยู่บนหิ้งสำหรับผมคือสกอร์ (ดนตรีประกอบ) และ OST (เพลงประกอบ) ที่เหมือนโกรธซีรีส์เรื่องอื่นๆ ว่าทำเพลงไม่สะใจ จึงใช้ Music Director ที่เขาว่ากันว่าเป็นเบอร์ 1 ของเกาหลี ทำเพลงประกอบที่เพราะสุดๆ ออกมาถึง 11 เพลง ใช้ศิลปินชั้นนำที่เป็นตัว TOP ของการร้อง OST มาขับร้อง ทำให้เพลงประกอบของเรื่องนี้ เป็นซีรีส์ที่มีเพลงประกอบที่ดีที่สุดในมุมมองของผมไปอย่างไม่ต้องสงสัย



ส่วนสกอร์ประกอบ ก็มีสกอร์เป็นดนตรีคลาสิก ผสมกับ OST แต่ OST เหมือนเป็นสิ่งแสดงอารมณ์ที่แท้จริงของตัวละครในขณะนั้น ทำให้เวลา OST ขึ้นมาแต่ละครั้ง มันทรงพลังเหลือเกินตรงกันข้ามกับการเล่าเรื่องที่เล่าเรื่องแบบน้อยนิด กว่าจะพูดกันออกมาแต่ละคำลุ้นแล้วลุ้นอีก แต่การแสดงสีหน้า แววตา อารมณ์เบื้องหลัง มาเต็มทุกคน หลายฉากไม่มีบทพูด แต่เรารู้สึกได้เลยว่า แต่ละตัวละครเจ็บปวดแค่ไหน อย่าหวังว่าจะมีการระเบิดอารมณ์อะไรในเรื่องนี้ มีแค่แววตา น้ำตา เบาๆเท่านั้น



มีบางคนพูดว่าเรื่องนี้เป็นซีรีส์ของคน introvert ซึ่งก็ดูเหมือนจะใช่ เพราะ ซีรีส์เกาหลีแทบจะทั้งหมดโดยเฉพาะนางเอก จะเป็นพวก extrovert แสดงออกชัดเจนมากๆ ซึ่งมันเลยมีความแปลกแตกต่างจากซีรีส์เกาหลีเรื่องอื่นๆอย่างเห็นได้ชัดอีกทั้งเรื่องนี้ผู้กำกับและคนเขียนบทยังสร้างอย่างละเมียดละไมมากๆ ของแทบทุกชิ้น สถานที่ต่างๆ เหตุการณ์ที่ดูเหมือนเล็กน้อย ถูกผู้กำกับเก็บรายละเอียด และนำมาใช้กับเนื้อเรื่องในช่วงหลังได้อย่าลงตัว ดังนั้น อย่าได้ละสายตาไปจากซีรีส์เรื่องนี้ครับ มันมีอะไรที่ต้องดูเยอะมากๆ



พระเอก – คิมมินแจ บทก่อนหน้านี้ที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยที่สุดคือบุรษพยาบาล Doctor Romantic 1&2 ในเรื่องนี้เขาแสดงได้ดีมากเลยครับ ได้ข่าวไปเรียนเปียโนมาอย่างหนักเพื่อให้สามารถรับบทนักเปียโนได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งก็ทำได้ไม่มีที่ติ นางเอก – พัก อึน-บิน นักแสดงที่ประสบการณ์สูงที่สุดคนหนึ่งในวงการ เพราะเธอเข้าวงการตั้งแต่ 7 ขวบ ตอนแรก ผมนึกว่าเธอจะแสดงเหมือนเรื่องอื่นๆ ที่เล่นเป็นนางเอกสายฮา กล้า บ้าบิ่น เหมือนที่เคยดูมา แต่ในรอบนี้เธอทำให้ผมลืมภาพนั้นทั้งหมด และแสดงเป็นนักไวโอลินได้อย่างสมบูรณ์แบบมากๆ การแสดงในแบบ “น้อยแต่มาก” ของเธอช่างทรงพลังเหลือเกินLove Line – ทรงพลังมากๆครับ เพราะรักสามเส้า 2 วงที่มาซ้อนกันนั้น แกะออกจากกัน ย่อมต้องมีความเจ็บปวด ทั้งรักชายหญิง ทั้งรักเพื่อน ทรมานคนดูได้ดีเหลือเกิน

หนังดีๆมีอีกเพียบ หนังเพลงมิวสิคัล


Tuesday, March 16, 2021

สุนทรียภาพ เล่นดนตรีในสวน UP GREEN ครั้งแรก มหาวิทยาลัยพะเยา

 


น้องๆนักเรียนจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยพะเยา ได้นำเครื่องดนตรีไทยและดนตรีสากล มาบรรเลงในสวน UP GREEN พื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ภายในมหาวิทยาลัยพะเยา ท่ามกลางบรรยากาศที่สดชื่น โดยมีบุคลากรและผู้บริหารร่วมชมการแสดงดนตรี ในครั้งนี้อย่างมีสุนทรียภาพ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา รองศาสตราจารย์ ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ พร้อมด้วยผู้บริหารและบุคลากร ร่วมรับชมการแสดงดนตรี ของน้องๆนักเรียนจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยพะเยา 




ในสวน UP GREEN ณ อาคารเรียนรวม (CE) ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งใหม่ที่ทางมหาวิทยาลัยได้ปรับภูมิทัศน์ ให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้นิสิต บุคลากร ตลอดจนประชาชนทั่วไป ได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่สีเขียวแห่งนี้อย่างมีความสุข สามารถมานั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจ โดยวันนี้เป็นครั้งแรกที่เปิดให้ใช้พื้นที่แห่งนี้จัดเป็นลานกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ที่ร่มรื่น ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยพะเยา ได้มุ่งเน้นทำการปรับปรุงพื้นที่ในโซนต่างๆให้เป็นพื้นที่สีเขียว สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง และเพื่อเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวที่สวยงาม ให้บุคลากรและนิสิตมีสุขภาพดี อยู่ และเรียน อย่างมีความสุข




Monday, March 15, 2021

ทิ้งเราทำไม แจ็ค แฟนฉัน feat. VANGOE มาแรงขึ้นที่1 เทรนด์ Youtube

ขึ้นแท่นอันดับ 1 บน Youtube แล้ว หลังจากติดเทรนด์ youtube ในอันดับที่2 อยู่ 2 วัน สำหรับ เพลง ทิ้งเราทำไม ของ แจ็ค แฟนฉัน feat. VANGOE ที่ทำเอาแฟนๆ อึ้งในเสียงร้องและการถ่ายทอดอารมณ์ของเจ้าตัว และ MV เพลงนี้ก็ได้ Vangoe (แวนโก๊ะ) หนุ่มแร็ปเปอร์สุดแหวกแนว มาร่วมร้องฟีเจอริ่งในเพลงนี้อีกด้วย เรียกว่ามาแรงแบบฉุดไม่อยู่เลยทีเดียว



สำหรับ แจ็ค แฟนฉัน เคยปล่อยซิงเกิ้ล เพลงเกิดมาเพื่ออกหัก ทำแฟนๆ เซอร์ไพรส์ด้วยเสียงร้องที่ไพเราะและกินใจ ซึ่งตอนนี้ เพลงเกิดมาเพื่ออกหัก มียอดวิวสูงถึง 69,131,882 (14 มี.ค.) หลังจากที่ปล่อยมาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา และต่อด้วยซิงเกิ้ลที่2 กับ เพลงทิ้งเราทำไม ซึ่งเจ้าตัวปล่อยเพลงดังกล่าวหลังจากออกมาเปิดเผยว่า ได้เลิกรากับ คุณ คุณัญญา อดีตแฟนสาวหลังคบกันมาได้ 6 ปี หลังจากที่เลิกราได้ไม่นาน แจ็ค ได้ปล่อยเพลงทิ้งเราทำไม มาให้แฟนๆ ได้ฟัง พร้อมกระแทกใจคนอักหักกันไปแบบเต็มๆ เลยจ้า

หนังดีหนังเด็ดมีที่นี่ที่เดียว ดูซีรี่ย์เกาหลี

13 The Musical (2022) รีวิวภาพยนต์เพลงและดนตรีจาก Netflix

 13 The Musical (2022) รีวิวภาพยนต์เพลงและดนตรีจาก Netflix เรื่องราวของ อีแวนด์ โกลด์แมน เด็กหนุ่มที่ย้ายมาจากโรงเรียนในนิวยอร์คตามครอบครัว ...