ความหมายเพลง Killer – HYBS จากวง Indie Pop ชาวไทยที่ RM วง BTS ฟัง

สาวกเพลง Indie Pop คงรู้จัก HYBS กันอยู่แล้วใช่ไหมคะ ซึ่งหลังจากที่สองหนุ่ม HYBS ได้ปล่อยเพลง “Dancing with my phone” และ “Ride” จนโด่งดังไปหลายประเทศ ซึ่งหนึ่งในคนที่ถูกใจเพลงของ HYBS จนต้องแชร์ลงโซเชียลก็คือหนุ่ม RM วง BTS ที่เพิ่งโพสเพลง “Ride” ให้แฟน ๆ ได้ฟังใน Story IG ไปไม่นาน จึงอยากมาชวนเพื่อน ๆ ทุกคนไปฟังเพลงใหม่ Killer จาก HYBS กัน

เพลง Killer – HYBS 

เพลง Killer จาก HYBS ถือเป็นเพลงที่มีคอนเซ็ปต์แหวกแนวจากหลาย ๆ เพลงก่อนหน้านี้อยู่อย่างน่าสนใจเลยค่ะ โดยเนื้อหาของเพลงจะยังคงพูดถึงเรื่องของความรักซึ่งเลือกถ่ายทอดผ่านความโหดร้ายของฉากคดีฆาตกรรม โทนของ MV จึงหนักไปโทนสีดำ แดง และโทนสีเขียวในสไตล์กล้องฟิลม์ และหลายฉากให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูหนังสยองขวัญอยู่ในคราวเดียวกัน ถือว่าทางวงทำ MV ออกมาได้มี Story และชวนให้ติดตามมาก ๆ ค่ะ อีกทั้งนักแสดงใน MV คือแสดงออกมาได้สมบทบาทสุด ๆ

ในเรื่องของทำนองเพลงและเสียงร้อง HYBS ยังคงเอกลักษณ์ของวงไว้ได้อย่างดี คือฟังแล้วรู้เลยว่านี่คือเพลงในแบบของ HYBS ท่วงทำนองจะมีความดิ่งเล็ก ๆ แต่ไม่ถึงขั้นฟังแล้วหลอนหรือหดหู่นะคะ ถือเป็นเพลงที่ฟังแล้วสบายหูเปิดฟังวนไประหว่างขับรถถือว่าเหมาะสุด ๆ ไปเลยค่าาา ยิ่งถ้าวิวข้างนอกหน้าต่างรถเป็นทุ่งหญ้าใหญ่ ๆ หรือทะเลแสนกว้างไกล คงทำให้หวนคิดถึงความรักที่เจ็บแต่ไม่ลืม

ใครที่ฟังเพลง Killer – HYBS แล้วแต่ว่ายังไม่เคยลองฟังเพลงอื่น ๆ ของสองหนุ่มอินดี้ HYBS อย่าลืมไปกดลองฟังนะคะ รับรองว่าติดหูจนเลิกฟังไม่ได้แน่ ๆ ค่ะ เพราะเพลงของเขาคุณภาพจริง ๆ อีกทั้งเสียงก็มีเสน่ห์มาก ติดตามผลงาน HYBS YouTube: HYBS

👉👉 สามารถติดตามดูหนังใหม่ได้ที่นี่  ดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง

รีวิว Kiseki: Anohi no sobito (2017) 4 ทันตะ หัวใจดนตรี

Kiseki: Sobito of That Day : 4 ทันตะ หัวใจดนตรี เล่าเรื่องของ จิน ที่มุ่งมั่นจะเป็นศิลปิน ซึ่งขัดใจพ่อ ที่อยากให้เป็นหมอเหมือนตัวเอง เพราะคิดว่าเพลงไม่สามารถช่วยคนได้ จินมีน้องชาย ฮิเดะ ที่ทำตามใจพ่อ แต่สอบหมอไม่ติด เลยไปสอบเป็นหมอฟันแทน จนได้ฟอร์มวงกะเพื่อนเอาสนุกๆ   จิน ไม่ประสบความสำเร็จในการเป็นนักร้อง พอดีกะที่ ฮิเดะ ลองเอาเพลงที่แต่งมาให้จินโปรดิวซ์ เลยเป็นที่มาของวง Greeeen

เรื่องราว เริ่มต้นจากที่ “จิน” ได้หนีออกจากบ้านจากความเห็นที่ไม่ลงรอยกับพ่อที่อยากให้เป็นหมอ แต่ความฝันของจินเองนั้นอยากเป็นนักดนตรี ส่วน “ฮิเดะ” น้องชายของจินก็มีความชอบด้านดนตรีเหมือนกับพี่ชาย แต่กลับเลือกที่จะเป็นหมอฟันตามความต้องการพ่อ แต่ฮิเดะก็ได้รวมตัวกับเพื่อนที่เรียนหมอฟันด้วยกันอีก 3 คนเพื่อทำดนตรี ในขณะที่จินกำลังประสบกับความล้มเหลวในการตามฝัน เขาก็ได้ค้นพบพรสวรรค์ด้านดนตรีของฮิเดะผู้เป็นน้อง จึงได้เข้ามาช่วยน้องน้องชายและเพื่อนๆ ในการทำดนตรี จนได้ได้เดบิวต์เป็นวนดนตรีโดยไม่เปิดเผยหน้าอย่างที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อนในญี่ปุ่น!

หากใครชอบหนัง Feel Good แนว Inspiration ไม่ควรพลาดเลยค่ะ เรื่องราวของหนังจะเกี่ยวข้องกับความรักความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวและเพื่อน การที่มีครอบครัวเป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง มันเป็นแรงผลักดันที่ทำในสิ่งที่เรารักได้ดีอย่างน่าอัศจรรย์ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรับผิดชอบหน้าที่ที่มีอยู่ให้ดีด้วยเช่นกัน

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ รีวิวหนังสารคดี

เพลง “เธอมากับผัว” ของ Owen , Jack Wc และ Man’r ความไพเราะของบทเพลงผสมผสาน 3 ภาษา

“ไก่งามเพราะขน คนงานเพราะแต่ง” คำพังเพยของไทยที่หลายคนคงเคยได้ยิน คนสวยย่อมมักถูกจับจ้องเสมอ หากเธไม่ตอบรับคงไม่มีใครสนใจ แต่ถ้าเธอตอบรับก็พร้อมจะสานต่อ แต่ถ้าเธอมีคนรักอยู่แล้ว มันคือเรื่องที่น่ากลัว มุมมองของเพลง “เธอมากับผัว” ของ Owen , Jack Wc และ Man’r นำเสนอมุมมองที่น่ารัก ผสมกับอารมณ์ตัดพ้อที่โดนหลอกได้อย่างน่าสนใจ

เธอมากับผัวเธอตั๋วกับอ้ายว่าโสดผัวเธอฮู้มันคงสิโกรธ

 อย่าโทษว่าอ้ายเป็นคนบ่ดีค่อยโทรมาหาอ้าย

อย่าทำอย่างนี้เดียวเขามาเห็น

don’t want to have a problem.I gotta go ,

ถ้าเขามาเจอฉันคงจะโดน 

เพราะงั้นจึงได้โปรดอย่ารีบร้อนใจ

ไม่ใช่ว่าปีละหนเธอไม่ต้องรีบร้อนไป

โอ๊ยเด้นาง ซ่างมางามเเต๊ว่า

ผัวน้องมาอ้ายคงกะคงบ่กล้า

ไปกอดไปหอมไปดอมดม

กะย้านสิจมอยู่กองตีน

โอ๊ยใจฮ้าย ใจฮ้าย ใจฮ้าย ซ่างมาวนใจอ้าย

ผู้สาวผู้ไดจั่งแมนตาซัง ขั้นผัวบ่มาบ่เป็นตายัง

เธอมากับสามีแต่กลับยังหลอกคนอื่นว่าตัวเองโสด ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งต้องหลงเธอหัวปักหัวปำ การกระทำของพี่อย่าได้โทษกันว่าเป็นคนไม่ดี เพราะไม่รู้ว่าเธอมีสามีอยู่แล้ว แต่วันใดที่เธอกับสามีเลิกกันขอให้รู้ว่าพี่รออยู่ อย่ารีบร้อนใจเรายังมีเวลาที่จะเรียนรู้กันอีกนาน ท่อนฮุกของเพลงผสานกับดนตรีจังหวะสามซ่า น่ารัก และฟังสบายอารมณ์มาก ผู้เขียนอยากแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้ลองฟัง รับรองเลยว่าปรับอารมณ์จากเพลงเศร้า เป็นเพลงสนุกอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการนำเอาความทะเล้นของตัวละครนำเสนอออกมา ว่าเขามีอารมณ์เสียใจ และอารมณ์หวั่นไหวต่อหญิงสาวอย่างไร

ความไพเราะของบทเพลง คือ การใช้ภาษาที่น่ารัก ผสมผสาน 3 ภาษา คือ ภาษาอีสาน ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย อย่างลงตัว ทำให้บทเพลงฟังแล้วสบายหู มีการเลือกใช้คำที่กะทัดรัด สื่อความได้มาก อีกทั้งยังนำเสนอความตลกผสมเข้ามาอีกด้วย การเรียบเรียง และทำนอง เป็นจังหวะช้าที่เร้าใจ โดยเฉพาะเสียงกลองที่ทำให้คนฟังลุ้นระทึกกับเหตุการณ์ในท่อนฮุกยังนำเสนออารมณ์ของตัวละครที่เขาหวั่นไหวมาก ๆ เอาไว้ทำให้ผู้ฟังเผลอยิ้มตาม

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส

แนะนำเพลงประกอบหนัง คังคุไบ Gangubai Kathiawadi หญิงแกร่งแห่งมุมไบ

รวมเพลงประกอบหนัง คังคุไบ (Gangubai Kathiawadi หญิงแกร่งแห่งมุมไบ) คังคุไบเป็นหนังอินเดียที่กำลังเป็นกระแสในบ้านเรา ณ ตอนนั้น ด้วยเนื้อหาที่มีเค้าโครงมาจากบุคคลที่มีตัวตนจริง ถ่ายทอดผ่านหนังที่เก็บทุกรายละเอียดอย่างสมจริง ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง ฉาก เทคนิคการถ่ายทำ และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับหนังอินเดีย นั่นก็คือ เพลงประกอบค่ะ วันนี้มาแนะนำเพลงที่อยู่ในหนังเรื่อง คังคุไบ ให้ทุกคนลองไปฟังกัน

1. เพลง Jhume Re Gori ร้องโดย Archana Gore, Tarannum Malik Jain, Dipti Rege, Aditi Pradhudesai

เพลงจังหวะสนุกสนาน ดนตรีอินเดียสไตล์สุด ๆ เนื้อหาของเพลงแสดงถึงความสดใสร่าเริงของเด็กสาววัยแรกรุ่น ที่เต้นรำอย่างสนุกสนาน ปลดปล่อยทุกเรื่องราวออกไปแบบไม่สนโลก เพลงนี้มาตอนที่คังคุไบยังเป็นสาวแรกรุ่นนามว่าคงคา ชีวิตของเธอในตอนนั้นสดใสร่าเริง โดยที่ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตในวันข้างหน้าจะพลิกผันไปตลอดกาล

2. เพลง Muskurahat ร้องโดย Arijit Singh

เพลงจังหวะช้า ดนตรีไม่เหมือนเพลงอินเดียเท่าไรนะ เป็นเพลงเดียวที่ไม่รู้ว่าอยู่ในฉากไหน เนื้อหาเพลงสื่อถึงความเศร้าที่ซ่อนลึกอยู่ข้างในใจ แต่ก็ต้องแสดงออกด้วยการยิ้มเสมือนว่า ฉันไม่เป็นไร ซึ่งก็ตรงกับชีวิตของคังคุไบที่ต้องพบเจอกับชีวิตที่ไม่สวยงามมาตั้งแต่ในวัยรุ่น แต่เธอก็ยิ้มสู้กับโชคชะตา

3. เพลง Jab Saiyaan ร้องโดย Shreya Ghoshal

เพลงจังหวะช้า ๆ เบา ๆ เนื้อหาของเพลงสื่อถึงการเริ่มต้นความรัก โลกของฉันก็ดูสดใสและสวยงาม ลืมทุกความโศกเศร้าจนหมดสิ้น เพลงนี้มาตอนที่อัฟชานกับคังคุไบเริ่มจีบกันตอนอยู่ที่ระเบียง สื่อภาษากายถึงกันไปมาแบบที่เข้าใจกันสองคน

4. เพลง Meri Jaan ร้องโดย Neeti Mohan

เพลงประกอบที่มีจังหวะกลาง ๆ ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป เนื้อหาของเพลงสื่อถึงค่ำคืนอันน่าหลงใหล เพราะได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่รัก เขาทำให้ฉันลุ่มหลงจนไม่อยากจะถอนตัวเลย เพลงนี้มาตอนฉากที่คังคุไบไปเดทกับอัฟชาน ซึ่งก็เห็นได้เลยว่าทั้งสองคนมีความสุขมากขนาดไหน

5. เพลง Shikayat ร้องโดย Archana Gore

เพลงจังหวะช้าแต่ดนตรีหนักแน่น เนื้อหาของเพลงสื่อถึงความรักที่ไม่สมหวัง เรามีเหตุผลที่จะปล่อยเขาไป ยอมให้เขาเกลียดก็ได้ แต่เราจะมีเขาอยู่ในความทรงจำตลอดไป ซึ่งเพลงนี้มาตอนฉากงานแต่งของอัฟชานกับโรชนี ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่คังคุไบยอมสละคนที่ตนเองรักด้วยเหตุผลอะไรหลาย ๆ อย่าง ถ้าฟังประกอบกับหนังจะสัมผัสได้ถึงความเศร้าเลยล่ะ

6. Dholida ร้องโดย Janhvi Shrimankar & Shail Hada

เพลงจังหวะสนุกสนานครึกครื้นด้วยจังหวะกลอง เนื้อหาของเพลงสื่อถึงการเต้นรำเพื่อบูชาเทพธิดา ยอมรับตรง ๆ ว่าไม่ค่อยเข้าใจเนื้อหาของเพลงเท่าไร แต่ที่แน่ ๆ พอจะเข้าใจว่าเป็นการฉลองและบูชา เพราะเพลงนี้มาในฉากงานฉลองความสำเร็จหลังคังคุไบชนะการเลือกตั้งนายกแห่งกามธิปุระนั่นเอง

คลิป Youtube :  จากช่อง Saregama Music

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ ข่าววงการบันเทิง แวดวงคนดัง

เปิดวาร์ปเพลงฮิต วอเอ๊ะ ๆ จังหวะโจ๊ะ เต้นมันส์ดังไกลตปท. ต้นฉบับคือเพลงอะไร

กระแสไวรัลเพลงฮิตที่หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินกันตามงานแห่ งานบวช งานสังสรรค์ คอนเสิร์ตหมอลำ แม้แต่วิดีโอในโลกออนไลน์ก็ยังมีคนนำมาร้องคัฟเวอร์กันเพียบ คงหนีไม่พ้น เพลงวอเอ๊ะ ๆ จากวงไม้เลื้อยแบนด์ (ไม้เลื้อย เรคคอร์ด) ที่ร้องคัฟเฟอร์ดัดแปลงแบบไทย ๆ จังหวะโจ๊ะ ทำเอาเต้นมันส์สุด ๆ จนกลายเป็นเพลงไวรัลซึ่งมียอดรับชมถึง 16.2 ล้านวิว พร้อมตั้งชื่อเพลงว่า อายูเรดิ๊ วอเอ๊ะๆๆๆ ชอบเลียแ..ด (Ok Are You Ready Thailand) โดยเริ่มต้นร้องว่า “โอเค อายูเรดี้? พอลเล็ทมีเทลยู ว็อทมีเทลเด็ม ปนดิทรอน ล็อกกิ้งอิทจัสไลก์แดด วอเอ๊ะ ๆ ๆ มอมอม่อ ๆ ๆ ล็อกกิ้งอิทจัสไลก์แดด”

“ที ทู วัน ฮาวยูไลก์แด๊ด ตะตาแดดแต๊ด ตาดะแดดแต๊ด บาดาบิงบาดาบูมบู้มบูม ฮาวยูไลก์แด๊ด ตะตา แดดแต๊ดตาดะแดดแต๊ด ลุคแอนยู นาวลุคแอนมี ๆ ๆ ลุคแอนยู นาวมี ฮาวยูไลก์แด๊ด วอเอ๊ะ ๆ ๆ ๆ”

งานนี้หลาย ๆ สงสัยว่าร้องคัฟเวอร์เพลงอะไรกันแน่ แท้จริงแล้ว ต้นฉบับเป็นเพลง Letih ศิลปินดีเจชาวอินโดนีเซีย Edu Sitepu XDS รีมิกซ์เวอร์ชั่น Letih (DJ Mos) ให้เข้าเพลง How You Like That ของ BLACKPINK

โดยนำท่อน OK Are you ready? Paul let me tell you what me tell them ‘pon di throne’ Locking it just like that Paul let me Locking it it Paul let me Locking it it just like that 

จากนั้นต่อด้วย 3 2 1 how you like that-that-that-that, that-that-that-that How you like that? Bada-bing, bada-boom-boom-boom How you like, that Now look at you now look at me, look at you now look at me Look at you, now look at me, how you like that?

งานนี้ ฉบับดัดแปลงแบบไทย ๆ ของวงไม้เลื้อยแบนด์ ไม่ดังแค่ที่ประเทศไทยเท่านั้น ที่มีผู้ใช้ติ๊กต็อก @kanvela14 ได้นำเพลงไวรัลมาร้องมียอดเข้าชมไม่กี่วันทะลุ 23.8 ล้านวิว แต่ยังฮิตติดหูถึงต่างประเทศจนมีชาวต่างชาติมากมายแห่เข้าร่วมคอมเมนต์ไม่แพ้คนไทย เช่น “ร้องเพลงยังไงไม่ให้โดนลิขสิทธิ์” “มือกลองกับมือเบสเจ๋งมาก นักร้องนำกับมือคีย์บอร์ดก็เท่จัด” “ฟังไปขำไป มันส์ก็มันส์หัวเราะจนน้ำตาไหล ชอบมาก” “เพลงนี้มันหลอนอยู่ในหูมาก หลอนจนต้องมาหาดูต้นฉบับว่าใครร้องเพลงนี้” “เป็นเพลงที่ยูนีกมาก ดีใจที่เคยฟังเพลงนี้จากมาเลเซีย” “เพลงนี้ดังมากในอินโดนีเซีย เนื้อเพลงทำเราเต้นได้อย่ามันส์” “เต้นไม่เป็น แต่จังหวะกระตุ้นคือดี จากสเปน”

เพลงฮิตวอเอ๊ะ ๆ

ต้นฉบับ

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ รีวิวหนังรักคอมเมดี้

“นนท์ ธนนท์” ปล่อยเพลงหวาน ๆ สไตล์คนคลั่งรักอย่างเพลง“โต๊ะริม(Melt)”

“นนท์ ธนนท์” เรียกว่าเป็นหนุ่มหล่อเสียงละมุนที่ไม่ว่าจะออกเพลงไหนซิงเกิ้ลใด ก็ไม่ทำให้แฟนคลับนั้นผิดหวังเลยสักครั้ง อย่าล่าสุดเจ้าตัวก็ได้เซอร์ไพรส์แฟน ๆ โดยการปล่อยเพลงหวาน ๆ สไตล์คนคลั่งรักอย่างเพลงที่มีชื่อว่า “โต๊ะริม(Melt)” ออกมาให้แฟน ๆ ได้หวีดกรี๊ดกับความน่ารักนี้กัน

NONT TANONT - โต๊ะริม (Melt) [Official MV]

ในเพลง โต๊ะริม (Melt) เป็นเพลงแนว Pop มีดนตรีและจังหวะที่ฟังแล้วสบาย ๆ มีความฟีลกู๊ดแบบไม่ไหว! อีกทั้งยังมีเนื้อหาที่พูดถึงเรื่องราวของความรักของคนคลั่งรักที่เก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ แค่เพียงได้เห็นรอยยิ้มและสายตาของเธอ ก็เหมือนกับโดนเชือดไปแบบนิ่ม ๆ อีกทั้งยิ่งได้เสียงร้องที่สุดละมุนหวานแหว๋วของหนุ่มนนท์ด้วยแล้ว ต้องบอกเลยว่าชวนฟินชวนเคลิ้มแบบสุด ๆ  อีกทั้งในซิงเกิลโต๊ะริม (Melt) นั้นเต็มไปด้วยเหล่าศิลปินรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ โดยเริ่มจากสาวสวยสุดฮิปปี้เสียงเอกลักษณ์อย่างสาว “BOWKYLION โบกี้ ไลออน (@bowkylion)” ที่ในเพลงนี้เธอได้โปรดิวซ์ แต่งเนื้อเพลง รวมถึงยังเป็นหนึ่งในนักแสดงในบทบาทสุดฮาอย่างคุณครูภาษาไทยอย่าง บัวคลี่ ลายอ้อน ที่เรียกว่าน่ารักและแสดงได้สมบทบาทสุด ๆ ฮ่า ๆ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นหนึ่งซิงเกิ้ลที่คุณภาพสุดคิ้วท์สดใสแบบคูณสองกันเลย

ต่อมาด้วยศิลปินที่มาแรงที่เรียกว่าเพลงไหนที่เขาอยู่เบื้องหลัง เพลงนั้นการันตีด้วยคุณภาพและความปัง อย่างหนุ่มสุดเท่มากฝีมือย่าง “เติร์ด Tillybirds (@2nd__4th)” ที่ในเพลงโต๊ะริม (Melt) เจ้าตัวก็ได้รับหน้าที่เป็นผู้กำกับ Music Video ซึ่งหนุ่มเติร์ดก็ได้โชว์ฝีมือในการกำกับ Mv มาแล้วหลากหลายเพลง ซึ่งในเพลงโต๊ะริม (Melt) ของหนุ่มนนท์ก็มีความน่ารักกุ๊กกิ๊กหัวใจแบบไม่ไหว บอกเลยว่าไม่มีผิดหวัง เรียกว่าได้เห็นอีกหนึ่งความสามารถและหนึ่งบทบาทนอกเหนือจากการเป็น นักร้องนำ ของหนุ่มเติร์ด

ในซิงเกิลเพลงโต๊ะริม (Melt) นั้นเป็นการเล่าเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่ร้าานข้าวมันไก่เมืองนนท์ เธอได้ปิ๊งรักกับหนุ่มหล่อคนหนึ่งที่เป็นลูกค้าภายในร้านที่เขาได้นั่งอยู่โต๊ะริม และเธอก็โดนเชือดนิ่มด้วยรอยยิ้มนิ่ม ๆ ของเขาโดยหนุ่มคนนั้นเคยเป็นเพื่อนสมัยเรียนของเธอ และเธอก็เคยแอบชอบมานานแสนนาน โดยการเจอกันครั้งนี้ของเขาและเธอทำให้เธอได้รื้อฟื้นความทรงจำดี ๆ ในอดีตที่มีร่วมกัน และดูเหมือนว่าหนุ่มคนนั้นก็ชอบเธออยู่ไม่ใช่น้อย ๆเหมือนกันเพราะในตอนท้ายเขาได้เขียนโน้ตให้เธอว่า “เราจำเธอได้นะ เหวิน :)” เรียกว่าเป็นพล็อตที่น่ารักหนุบหนับหัวใจเป็นอย่างมากเลยละค่ะ

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ รีวิวหนังสารคดี

GOT7 กับมิวสิควิดีโอเพลงใหม่ 'NANANA' ที่คัมแบ็คในอัลบั้ม GOT7 ชวนเต้น จังหวะสนุก มิวสิควิดีโอสีสันสดใส

GOT7 HOMECOMING 2022 FANCON 21 - 22 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา จัดเต็มความสนุกแบบพิเศษไปสองวัน ที่ SK OLYMPIC HANDBALL GYMNASIUM กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยวันแรกของการแสดง GOT7 ก็ต่อเวลาความสนุกให้อากาเซ่ไปถึง 4 ชั่วโมง จากเวลาจริง 2 ชั่วโมง ฟินเกินคุ้มสุด ๆ และในวันที่ 22 พฤษภาคม (วันที่สองของการจัดงาน) ได้มีการจัดให้รับชมออนไลน์ผ่านทางแพลตฟอร์ม KAVECON เปิดโอกาสให้แฟนคลับต่างชาติได้ชมบรรยากาศแฟนคอนกันแบบสด ๆ ทำเอา #GOT7_HomecomingDay2 พุ่งทะยานขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่งบนทวิตเตอร์ข้ามวันกันเลยทีเดียว 

GOT7 ปล่อยมิวสิควิดีโอเพลงใหม่ล่าสุด “NANANA” ผลงานใหม่อย่างเป็นทางการ ฉลองการคัมแบ็กแบบครบทีมในรอบ 1 ปี 3 เดือน หลังปล่อยเพลง “Encore” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ก่อนที่สมาชิกต่างคนต่างออกจาก JYP Entertainment และแยกย้ายกันไปเซ็นสัญญากับต้นสังกัดใหม่ 

“NANANA” แต่งเนื้อร้องและทำนองโดย Def (JAY B) เป็นเพลงป็อปที่มีจังหวะสนุกสนานและดึงด้านร่าเริงสดใสของสมาชิก GOT7 ทุกคนออกมาได้เป็นอย่างดี เป็นเพลงที่ให้อารมณ์เหมือนมอบความสุขความสดใสให้กับแฟนๆ เพื่อเป็นของขวัญตอบแทนชาวอากาเซทุกคนสำหรับการรอคอยการคัมแบ็กอันยาวนาน

นอกจากเพลง “NANANA” แล้ว GOT7 ยังปล่อยมินิอัลบั้มใหม่โดยใช้ชื่อว่า GOT7 อีกด้วย ประกอบด้วยเพลงทั้งหมด 6 เพลง ทั้ง "Truth", "Drive Me To The Moon", "TWO", "Don't Care About Me" และ "Don't Leave Me Alone"

ข้อมูล :Twitter @GOT7

👉👉 ติดตามรีวิวได้ที่นี่ รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส

ภาพยนต์แอนิเมชั่นมิวสิคัล เนรมิตฝันสู่จันทรา (Over the Moon)

เนรมิตฝันสู่จันทรา (Over the Moon)  ภาพยนต์แอนิเมชั่นมิวสิคัล  เรื่องนี้เป็นอนิเมชั่นที่เล่าเรื่องราวตำนานของเทพฉางเอ๋อ ซึ่งเป็นตำนานของเทศกาลการไหว้พระจันทร์ที่แม่ผู้ชอบเล่าเรื่องราวของเทพธิดาบนดวงจันทร์ให้ลูกสาว เฟย เฟย ฟัง ก่อนจากไปก่อนวัยอันควร ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เปรียบสเหมือนตัวแทนควรรักความห่วงใย ความอบอุ่น และอ้อมกอดของบุคคลที่เรารักที่เราได้สูญเสียไป บนดวงโดยจะมาในรูปแบบอนิเมชั่นสีสันสดใส 

เรื่องราว  เฟยเฟย เด็กสาวที่สูญเสียแม่และพ่อของเธอกำลังจะเริ่มความสัมพันธ์ครั้งใหม่พร้อมการมาถึงของ ชิน หนุ่มน้อยตัวแสบผู้มาพร้อมกบ ด้วยความไม่ถูกชะตากันและในคืนหนึ่งที่โต๊ะอาหารของครอบครัวเธอได้มีปากเสียงกับญาติที่มาท้าทายให้เธอพิสูจน์ว่าเทพีฉางเอ๋อมีตัวตนอยู่จริงทำให้ เฟยเฟย ตัดสินใจสร้างจรวดเพื่อพาเธอไปยังดวงจันทร์เพื่อหาหลักฐานการมีตัวตนของฉางเอ๋อแต่ที่เธอไม่คาดคิดก็คือเมื่อพบเทพีฉางเอ๋อแล้วนางกลับไม่ได้เป็นอย่างที่ึคิดและเพื่อให้ได้กลับบ้าน เฟยเฟย และ ชิน พร้อมเจ้ากบ และกระต่ายบันจี้จำต้องหาของขวัญให้เทพีฉางเอ๋อก่อนจะติดอยู่บนดวงจันทร์ที่กำลังจะดับเพราะความเสียใจของนางไปตลอดกาล

ภาพรวมเรื่องเนี้อ สนุก มีมุกตลก และคาแรกเตอร์กระต่ายอย่างเจ้าบันจี้ก็น่ารักน่ากอดดี ส่วนเทพีฉางเอ๋ออย่างบอกว่านางแซ่บมาก แซ่บระดับที่เชื่อว่า กะเทยได้ดูคงยกให้เป็นแม่แน่นอนผนวกกับเพลงที่นางร้องเปิดตัวด้วยแล้วนี่ขอบอกว่าเปรี้ยวเยี่ยวราดมากค่ะ สรุปแล้วถือว่าดีเกินคาดเลยครับสำหรับแอนิเมชันเรื่องนี้ เหมาะสำหรับเปิดดูเพื่อให้ลูกหลานได้ศึกษาที่มาของประเพณีไหว้พระจันทร์ที่เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักแค่ขนมไหว้พระจันทร์นั่นแหละ และมันยังให้ข้อคิดดี ๆ เรื่องการทำใจยอมรับความสูญเสียและอยู่กับปัจจุบันซึ่งแอนิเมชันก็พูดถึงเรื่องนี้ได้ลึกซึ้งทีเดียวค่ะ

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ เกาะติดข่าวภัยธรรมชาติ

ชวนดูภาพยนตร์ตำนานเพลงร็อคแอนด์โรล Elvis (2022) เข้าฉาย 23 มิถุนายน 2022 นี้

เรื่องย่อ Elvis จากผู้สร้างภาพยนตร์วิสัยทัศน์ไกลผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ บาซ เลอร์แมนน์ สู่ภาพยนตร์ดราม่า “Elvis” จาก Warner Bros. Pictures นำแสดงโดย ออสติน บัตเลอร์ และเจ้าของรางวัลออสการ์ ทอม แฮงค์ส ภาพยนตร์จะพาไปสำรวจชีวิตและดนตรีของ เอลวิส เพรสลีย์ ผ่านมิติความสัมพันธ์แสนซับซ้อนกับผู้จัดการนิสัยลึกลับ ผู้พันทอม ปาร์คเกอร์ การถ่ายทำภาพยนตร์ถ่ายทำที่ควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย จากการสนับสนุนดูแลของรัฐบาลควีนส์แลนด์ ร่วมกับ Screen Queensland และ Producer Offset “Elves” เข้าฉาย 23 มิถุนายน 2022  นี้ ในโรงภาพยนตร์

เรื่องราวของตำนานเพลงร็อคแอนด์โรล เอลวิส เพรสลีย์ ตลอดเวลา 20 ปี นับตั้งแต่เขาเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังไปจนถึงตอนที่มีแฟนคลับล้นหลามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนไปทั่วโลก ท่ามกลางพื้นเพเบื้องหลังของวัฒนธรรมที่กำลังพัฒนาและการสูญเสียความไร้เดียงสาในอเมริกา ในขณะเดียวกันก็มีอีกหนึ่งบุคคลสำคัญและมีอิทธิพลต่อชีวิตของ เอลวิส อย่างมาก นั่นก็คือ พริสซิลลา เพรสลีย์

นำแสดงโดย

• ออสติน บัตเลอร์ รับบท เอลวิส เพรสลีย์
• ทอม แฮงก์ส รับบท ผู้พันทอม ปาร์คเกอร์
• โอลิเวีย เดอยองจ์ รับบท พริสซิลลา เพรสลีย์
• เดเคอร์ มอนต์โกเมอรี่ รับบท สตีฟ บินเดอร์
• โคดี้ สมิท-แม็คฟี รับบท จิมมี่ รอดเจอร์ส
• เดวิด เวนแฮม รับบท แฮงก์ สโนว์
• ลุค บราซีย์ รับบท เจอร์รี่ สชิวลิ่ง
• ริชาร์ด ร็อกเบิร์ก รับบท เวอร์นอน เพรสลีย์
• นาตาชา บาสเซ็ตต์ รับบท ดีซี่ ล็อกว์

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่  รีวิวหนังรักคอมเมดี้

รีวิวภาพยนตร์ Annie หนังมิวสิคัลที่ถูกดัดแปลงมาจากละครบรอดเวย์ชื่อดังอย่าง Annie

Annie หนังมิวสิคัลที่ถูกดัดแปลงมาจากละครบรอดเวย์ชื่อดังอย่าง Annie เด็กกำพร้านามว่า "แอนนี่" ฉบับนี้ดัดแปลงเป็นเด็กน้อยผมแดงผิวขาวมาเป็นหนูน้อยผิวดำครับ แต่พล็อตยังประมาณเดิม คือเธอต้องการหาพ่อแม่ แต่โชคชะตาก็นำพาเธอไปพบกับวิล สแตคส์ (Jamie Foxx) มหาเศรษฐีนักธุรกิจที่กำลังลงเลือกตั้ง แล้วแอนนี่ก็ทำให้ชีวิตของวิลเปลี่ยนไป

เรื่องราวของเด็กกำพร้านามว่า "แอนนี่" (คัวเวนซาเน่ วอลลิส) เด็กสาวที่มีความร่าเริง แต่เธอก็ต้องโชคร้ายที่จะต้องมาอยู่กับ มิสฮานิแกน (รับบทบาทโดย คาเมรอน ดิแอซ) นอกจากนี้แอนนี่ก็ยังจะได้ทำความรู้จักกับผู้ลงสมัครตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนิวยอร์กอย่าง วิลล์ สแต็กซ์ (เจมี่ ฟอกซ์) อีกด้วย

ภาพรวมหนังมาพร้อมบทเพลงดีๆ มากมาย ซึ่งก็เป็นจุดขายสำคัญของ Annie เลยก็ว่าได้ (Annie ถูกดัดแปลงเป็นละครเวทีหลายครั้งสุดๆ ครับ Neil Patrick Harris แกยังเอามาแซวตอนงาน Tony Awards เลย) อีกทั้งเรื่องราวที่ชวนให้คนดูรู้สึกอบอุ่น ชวนให้รำลึกถึงความหมายของครอบครัวและการมีน้ำใจซึ่งกันและกันก็เป็นเสน่ห์ของ Annie เช่นกัน หนังฉบับนี้ก็ทำออกมาได้ไม่เลว คือมันอาจจะไม่ได้ลึกซึ้งหรือถึงอารมณ์มากมาย แต่อย่างน้อยเราก็ยังได้สัมผัสกลิ่นอายของเสน่ห์เหล่านี้พอสมควร ดูแล้วยังยิ้มได้ เพลินกับเพลง ขำกับหลายๆ มุขที่หนังใส่ลงไป แล้วก็รู้สึกดียามได้เห็นบทสรุป Happy Ending

สรุปเลยว่าถ้าใครชอบหนังเพลงดูเพลินๆ เรื่องราวจบลงอย่าง Happy และมีความหวัง ก็จัดเรื่องนี้ได้เลยเราเชื่อคนดูจะสนุกกับมันได้ในระดับหนึ่ง แต่ในแง่ของเนื้อหาอาจคาดหวังความแน่นของบทไม่ได้มากนักนะเพราะหนังก็ทำออกมาแบบสบายๆ ดูได้ทั้งครอบครัว (จริงๆ อาจจะกระเดียดไปทางให้เด็กๆ ดูมากกว่าด้วย) เนื้อหาเลยไม่มีอะไรซับซ้อนเท่าไร

👉👉 ติดตามสนับสนุนเพิ่มเติมได้ที่นี่ ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022

เพลงใหม่ จังหวะสนุก ยอดวิวปัง กลางปี 2022

วันนี้อัปเดตเพลงใหม่ ผู้รักเสียงเพลงอยู่รอดด้วยการเปิดเพลง ฟังมันทั้งวัน จะทำอะไรก็ฟังเพลง วนเพลงฟังไม่มีที่สิ้นสุด วันนี้เราเลยมาอัปเดตและเปิดวาร์ปเพลงใหม่น่าฟังกันค่ะ ซึ่งแต่ละเพลงเป็นเพลงที่มียอดวิวเยอะ จังหวะสนุกติดหู ฟังกี่ทีก็ไม่มีเบื่อ บอกเลยว่าถ้าใครที่ได้ฟังแล้วต้องฟังซ้ำแน่นอน

เพลงแรกคือเพลง ทักครับ - Lipta บอกก่อนเลยค่ะว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ดังมาก ๆ ในโซเชียล ไม่ว่าจะเปิดแอปฯ ไหน ก็ได้ยินตลอด ด้วยความที่จังหวะเพลงนั้นมีความสนุกสนาน ฟังแล้วรู้สึกอยากเต้นเลยค่ะ บวกกับการมี Rap ในเพลง เนื้อเพลงสื่อถึงการชอบใครคนหนึ่งแล้วก็ไม่อยากให้เขาคนนั้นมีใคร เพราะเธอนั้นน่ารักถูกใจเรามากนั่นเองค่ะ ใครที่ยังไม่ฟังต้องไปฟังเลยค่ะ ติดหูแน่นอน

เพลงต่อมาหวานเรียกพี่ ขอจองได้ไหม - TATTOO COLOUR เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาที่สุดจะเท่แล้วก็หวานจริง ๆ ค่ะ เพราะเพลงนี้นั้นได้ครองใจใครหลายคน เนื่องจากจังหวะเพลงที่สุดปังแล้ว เนื้อเพลงก็ปังเอาเรื่อง เป็นการแซวผู้หญิงที่ตัวเองชอบ ว่าขอจองได้ไหม ไม่อยากเป็นแค่พี่ชายแล้ว สุดจะลงตัวกับเอกลักษณ์ของวงนี้จริง ๆ 

เพลงที่สาม เพลง เจ้าของที่ - Mirrr เพลงนี้จะแตกต่างกับเพลงอื่น ๆ ที่บรรยายมาค่ะ เพราเพลงนี้เป็นเพลงเศร้า แต่เมื่อได้ฟังแล้ว บอกเลยว่าต้องตกหลุมรักและกลับมาฟังซ้ำแล้วซ้ำอีก ขนาดไม่ได้อกหักยังชอบฟังเลยค่ะ ทำนองที่ติดหูและเนื้อเพลงที่กินใจ เสียงร้องที่ไพเราะ ลงตัวไปหมดเลยค่ะ

เพลงต่อมา รู้อยู่ - D GERRARD เป็นแนวเพลงที่ใคร ๆ ที่ฟังแล้วต้องสนุกไปกับเพลงแน่นอนค่ะ เนื้อหาสุดจะน้อยใจแต่แปลกที่ฟังแล้วกลับสนุกซะงั้น ประมาณว่ารู้อยู่ว่าตัวเองนั้นไม่มีอะไรให้เธอมาสนใจได้ แต่ใส่ทำนองสุดจะเฟี้ยว แถมมิวสิควิดีโอยังได้รวบรวมเหล่าพระเอกภาพยนตร์เรื่อง 4 Kings มาพร้อมหน้าพร้อมตา นับว่าเป็นเพลงที่สนุกเร้าใจมากเลยค่ะ

เพลงสุดท้ายที่เราจะไม่พูดถึงก็เป็นไปไม่ได้ คือเพลง แค่มีเธอไปเดินเตะคลื่นทะเลด้วยกัน - No One Else เพลงนี้เพิ่งออกมาสด ๆ ร้อน ๆ ไม่ถึงเดือนเลยค่ะ เป็นเพลงที่คนคลั่งรักต้องชอบแน่นอน เพราะเพลงนี้นั้นพูดถึงการมีใครคนหนึ่งที่ได้อยู่ร่วมกันทุกช่วงเวลา ไปเที่ยวทะเลด้วยกัน บอกเลยว่าหวานฉ่ำไปเลยค่ะ ใครที่ไม่เคยฟัง ลองไปฟังกันนะคะ

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ รีวิวหนังสารคดี

Queendom Season 2 (2022) ซึ้งมากเลยกับการแสดงของ Vocal unit

ผู้เข้าแข่งขันทุกคนในรายการ Queendom แบ่งกลุ่ม vocal unit และ dance unit ครบแล้วใน Ep.5 ใน Ep. 6 เราจะเห็นการฝึกซ้อมของสาวๆเมนแดนซ์ของแต่ละเพลง การตั้งชื่อกลุ่ม การคิดคอนเซปต์ การซ้อมเต้น ทีมเวิร์ก และความรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กฝึกตอนที่ได้ซ้อมเต้นกับครูฝึกที่แต่ละคนเคยเป็นผู้เข้าร่วมรายการแข่งขัน survival girl's street dance ของทาง mnet มาก่อน

วง brave girl กับวง loona ซ้อมเต้นเพลงจนถุงเท้าขาดและเล็บหักเลยนะคะ และเป็น performance ที่ดีที่สุดจนได้รับของรางวัลเป็นการได้รับการรับเลือกให้จัดอันดับเวทีการแสดงก่อนหรือหลังสำหรับวงอื่นๆด้วยค่ะ สาวๆนี้ดีใจมากเลยโดยเฉพาะวง brave girl ที่ได้รับอันดับสุดท้ายถึงสองครั้งในรายการติดกันจนเมมเบอร์ของวงเริ่มสูญเสียความมั่นใจในการแข่งขัน ให้กลับมามั่นใจและมีพลังใจอีกครั้งที่จะต่อสู้ต่อและเอาชนะในรายการ survival ที่แสนโหดร้าย

เสียงร้องน่ารักสดใสและมีเอกลักษณ์ของสาวๆวง loona และวง ke1per ที่ร้องเพลงcover Don't go ของ exo ที่มีความหมายตามหาและวิ่งไล่ตามความฝันด้วยท่วงทำนองช้าๆซึ้งๆอีกทั้งยังมีเมมเบอร์วง ke1per น้ำตาไหลออกมาระหว่างร้องเพลงเพราะเข้าถึงอารมณ์สร้างความประทับใจให้ผู้ชมและคนฟังเป็นอย่างมากค่ะ

จริงๆทีมนี้เลือกเพลงไม่ได้นะ ไม่ว่าจะเป็น across the universe ของ beak yerin หรือเพลงที่มีท่วงทำนองดนตรีบรรเลงช้าๆป๊อบหรือบัลลาร์ดเพราะหาเสียงร้องที่ลงตัวสำหรับทั้งสามคนไม่ได้จึงจบด้วยการเลือกเพลง hold my hand ของ IU ที่เหมาะกับน้ำเสียงน่ารักๆใสๆจนคนฟังและผู้ชมอยากจะยื่นมือออกไปจับมือจริงๆสิ่งที่ผู้เขียนอยากจะชื่นชมคือความพยายามของซูบินวง wjsn ค่ะ สัมผัสได้ถึงความจริงใจในเวทีนี้ที่จะเข้าถึงหัวใจของคนดูและผู้ฟังเลย

นี้คือเพลงไฮไลท์สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดของทางรายการเลยเพราะเสียงร้องของฮโยลินกับลีดเดอร์วง brave girl ที่อายุ 33 กีทั้งคู่ อีกทั้งฮโยลินยังเคยเป็นลีดเดอร์สมัยอยู่วง sistar มาก่อน รู้สึกประทับใจมากเลย ตอนที่ฟัง รู้สึก relate ถึงอารมณ์ความรู้สึกและน้ำตาเกือบจะไหลจริงๆค่ะกับการ cover เพลง to my youth ของ bol4 ครั้งนี้ อีกทั้งยังมีการปิดจบ perfomance ที่รู้สึกซาบซึ้งกับมิตรภาพระหว่างผู้เข้าแข่งขันทั้งสองคนในรายการที่อายุเท่ากันด้วย

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่  รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส

รีวิว Trolls World Tour โทรลล์ส เวิลด์ ทัวร์ (2020) ราชินีแห่งฮาร์ดร็อคโทรลล์

Trolls World Tour (2020) ภาคนี้ได้เล่าย้อนตำนานของโทรลส์ ว่าด้วยกำเนิดแห่งเสียงดนตรีเมื่อพระเจ้ามอบสายเสียงที่เหมือนสายพิณไว้ให้ 6 สายแทนแนวเพลงแต่ละแนวทั้งคลาสสิก, ร็อก, พอป, เทคโน, คันทรีและ ฟังก์ จนกระทั่งวันหนึ่งก็มีอันทำให้โทรลส์แต่ละเผ่าเอาสายเสียงของแนวเพลงตัวเองไปเก็บไว้ โดยไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นสาเหตุที่ทำให้โทรลส์แต่ละเผ่าพันธุ์ต่างแบ่งแยกแตกความสามัคคีและมุ่งแต่จะรักษาเส้นเสียงและแนวดนตรีของตัวเองให้ดีที่สุด

เรื่องราวเมื่อราชินีแห่งฮาร์ดร็อคโทรลล์พยายามที่จะครอบครองอาณาจักรโทรลล์ทั้งหมด ราชินี ป๊อปปี้ และเพื่อน ๆ ของเธอได้ลองวิธีต่าง ๆ เพื่อช่วย โทรลล์ ทั้งหมด ผ่าเทคโนโทรลล์ถูกโจมตีโดยบาร์คราชินีแห่งร็อคโทรลล์ท่ามกลางคอนเสิร์ตดีเจใต้น้ำและเธอขโมยเชือกของพวกเขา ในขณะเดียวกัน ป๊อปปี้ ราชินีแห่ง โทรลล์ได้รับคำเชิญจาก บาร์บ ที่เรียกเผ่า โทรลล์ ทั้ง 6 เผ่ามาร่วมงานปาร์ตี้เพื่อให้พวกเขารวมตัวดนตรีอีกครั้ง ราชาเป็ปปี้ ผู้เป็นพ่อของ ป๊อปปี้ อธิบายให้เธอฟังว่าแต่ละเผ่ามีดนตรีประเภทต่างกัน พวกเขาเป็น ป๊อป, พังค์, คลาสสิค, เทคโน, คันทรี่ และร็อค และแต่ละเผ่ามีสายเวทมนต์ที่ผู้นำของพวกเขาเก็บไว้ เพลงเฉพาะประเภท อย่างไรก็ตาม บาร์บ ตั้งใจที่จะขโมยทั้งหกสายและใช้เพื่อทำลายเพลงอื่น ๆ ทั้งหมดเพื่อรวม โทรลล์ ภายใต้เพลงร็อค 

เมื่อเราเอาพลอตของหนัง Trolls ทั้ง 2 ภาคมาเทียบเรากลับพบความเชื่อมโยงในความต่างของภารกิจของพอปปีและแบรนช์ทั้ง 2 ครั้ง หากคราวที่แล้วพวกเขาต้องช่วยโทรลส์จากสัตว์ประหลาดที่จับพวกเขาเป็นอาหาร คราวนี้ก็กลายเป็นการปกป้องแนวเพลงตัวเองก่อนจะถูกกลืนกินจนอัตลักษณ์ของดนตรีตัวเองต้องหมดสิ้น จนสมองก็ซุกซนไปคิดถึงเรื่องราวความขัดแย้งทางชาติพันธุ์และสีผิวที่สหรัฐอเมริกาเมื่อไม่นานมานี้แบบอัตโนมัติเลยล่ะ

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ ข่าววงการบันเทิง แวดวงคนดัง

รีวิวหนัง Sing Street (รักใครให้ร้องเพลงรัก)

Sing Street (รักใครให้ร้องเพลงรัก) บางคนอาจจะเคยได้ดูหนังอิ่มอุ่นที่มีชื่อว่า ‘Once’ มาบ้างแล้ว มันเป็นหนังทุนต่ำที่ทำให้คนชอบได้สูง ก่อนที่อีกวัน เราก็ได้ดูหนังเล็กๆ ที่กลายเป็นกระแสดังอย่าง ‘Begin Again’ หลายเพลงดังอย่างถล่มทลายส่งผลต่อรายได้ของหนังเรื่องนั้น จนวันนี้ ผู้กำกับฯ คนเดิมหยิบเรื่องเพลงมาสร้างเป็นหนังได้สุดจะสมบูรณ์อีกครั้ง หนังเรื่องนั้นชื่อ ‘Sing Street’ เปลี่ยนจากความรักของวัยรุ่นวัยทำงาน ถอยวัยลงไปสู่วัยรุ่นวัยเรียนกันดูบ้าง

เรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่ไม่แน่ใจว่าเขาชื่ออะไร แต่เขาถูกเรียกว่า คอสโม (Ferdia Walsh-Peelo) เด็กหนุ่มวัย 15 ที่ชีวิตกำลังเผชิญปัญหาแตกแยกของครอบครัว พ่อแม่ระหองระแหง เศรษฐกิจของครอบครัวย่ำแย่จนต้องย้ายโรงเรียน ไปโรงเรียนที่โลว์คลาสกว่าเดิม เจอเพื่อนและสังคมแย่ๆ แต่ก็ยังมีดีที่ทำให้เขาได้พบหญิงสาวแสนสวยนามราฟีน่า (Lucy Boynton) เธอทำให้เขาอยากจีบ เมื่อเธอบอกว่าเป็นนางแบบ เขาก็เลยจะฟอร์มวงดนตรีเพื่อให้เธอมาเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอ ในที่สุด เขาก็ฟอร์มวงขึ้นมาจนได้ และกลายมาเป็นวง ‘Sing Street‘ เขารับหน้าที่เป็นนักร้องนำของวง รวมทั้งยังรับหน้าที่แต่งเพลงให้กับวงด้วย โดยใช้แรงบันดาลใจในการแต่งจากราฟีน่านี่แหละ รวมทั้งยังได้อิทธิพลมาจากเพลงยุคนั้นที่เขาได้ฟังมาจากแผ่นเสียงที่เบรนแดน (Jack Reynor) พี่ชายบอกให้เขาลองฟัง รวมทั้งยังให้คำแนะนำเขามากมายด้วยเช่นกัน สิ่งสำคัญคือ เขาจะฟันฝ่าอุปสรรคและเรียนรู้เข้าใจชีวิตได้แค่ไหนในวัย 15 เช่นนั้น

ภาพรวมหนังใส่บรรยากาศความเก่าของสภาพบ้านเมืองและที่สำคัญ คือเพลงในยุคนั้น ยุคที่มีการทำมิวสิกวิดีโอออกมาเพื่อโปรโมตเพลง และนั่นเป็นจุดสำคัญที่ทำให้พวกเขาริเริ่มจะทำมิวสิกของตัวเองโดยมีสาวที่คอมโมชอบมาเล่นเป็นนางเอกให้ โดยถ่ายและตัดต่อกันแบบง่ายๆ แม้แต่การแต่งตัวก็ต่างคนต่างเตรียมกันมาเอง นั่นแหละ คือความตลกน่ารักในแบบฉบับของ ‘รักใครให้ร้องเพลงรัก’ หนังที่มีชื่อเดียวกันกับชื่อวงของพวกเขา

👉👉 ติดตามสนับสนุนเพิ่มเติมได้ที่นี่ ดูหนังออนไลน์ 2022

รีวิวซีรีย์ฮีลลิ่งรีเมกจากซิตคอม Uncle (2021) โอจองเซ รับบทนำ

Uncle (2021) บทบาทใหม่ของชายหนุ่มที่ยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ ในการรับหน้าที่ดูแลหลานชาย นำพาไปสู่ความหมายใหม่ของชีวิต โปรเจกต์นี้รีเมคจากซีรีย์ชื่อดังของฝั่งอังกฤษออกอากาศทางช่อง BBC ในชื่อเดียวกัน เล่าถึงนักดนตรีหนุ่มตกอับที่สูญเสียงานและเพิ่งเลิกกับแฟนจนเรียกได้ว่าชีวิตอยู่ในระดับต่ำที่สุด เมื่อวันหนึ่งเขาต้องมารับหน้าที่ดูแลหลานชายที่ป่วย ชีวิตใหม่ของเขาก็เหมือนเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น

 

เรื่องราวของชีวิตของชายหนุ่มนักดนตรีที่ไม่ค่อยดังมากเท่าไหร่กำลังเสมือนอยู่บนปากเหวจากการถูกโกงและทรยศ เมื่อต้องมารับหน้าที่ดูแลหลานชาย(ลูกของพี่สาวแท้ ๆ)ซึ่งป่วยเป็น OCD หรือโรคย้ำคิดย้ำทำเพราะเด็กอยู่ในครอบครัวที่แม่ถูกพ่อทำร้ายมาโดยตลอด บทบาทที่ถูกกำหนดขึ้นมาใหม่ของชายหนุ่มคนนี้จึงปรากฎขึ้นมากับคำว่า คุณน้า จอนฮเยจิน รับบทเป็น วังจุนฮี ความสัมพันธ์ที่ตัดขาดมานานมากแล้วกับน้องชาย จนเมื่อวันหนึ่งเธอให้ลูกชายของเธอไปปรากฏตัวต่อหน้าเขา หลังจากที่เธอหย่าขาดกับสามีซึ่งแต่งงานกันมา 12 ปีเพราะถูกทำร้ายมาโดยตลอด เธอย้ายเข้าไปอยู่ในห้องเช่าราคาถูกเพื่อต่อสู้สุดกำลังในการทำเรื่องขออำนาจศาลเพื่อดูแลลูกชายตัวเองอย่างเต็มตัว อีคยองฮุน รับบทเป็น มินจีฮู หลานชายของ วังจุนฮยอก และลูกชายของ วังจุนฮี

ไฮไลต์สำคัญที่แฟนซีรีย์เกาหลีต่างจับตามองคือการก้าวขึ้นมารับบทนำเป็นครั้งแรกของ โอจองเซ ผู้ที่ได้รับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากเวที Baeksang Arts Awards มา 2 ปีซ้อน จากการสวมบทบาทที่สร้างความประทับใจผู้ชมในซีรีย์ When the Camellia Blooms และ It’s Okay to Not Be Okay

และนอกจากในมุมของการแสดงที่เชื่อว่าโอจองเซจะไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวังแล้ว เซอร์ไพรส์ผู้ชมด้วยการโชว์เสียงร้องของเขาอีกด้วย ส่วนนักแสดงร่วมคนอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเป็นแคสต์ทรงพลังที่แฟนซีรีย์ต่างเฝ้ารอที่จะรับชมฝีมือเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ชอนฮเยจิน, อีคยองฮุน, พัคซอนยอง, อีซังอู และ อีชีวอน

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่  รีวิวหนังสารคดี