Trolls World Tour (2020) ภาคนี้ได้เล่าย้อนตำนานของโทรลส์ ว่าด้วยกำเนิดแห่งเสียงดนตรีเมื่อพระเจ้ามอบสายเสียงที่เหมือนสายพิณไว้ให้ 6 สายแทนแนวเพลงแต่ละแนวทั้งคลาสสิก, ร็อก, พอป, เทคโน, คันทรีและ ฟังก์ จนกระทั่งวันหนึ่งก็มีอันทำให้โทรลส์แต่ละเผ่าเอาสายเสียงของแนวเพลงตัวเองไปเก็บไว้ โดยไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นสาเหตุที่ทำให้โทรลส์แต่ละเผ่าพันธุ์ต่างแบ่งแยกแตกความสามัคคีและมุ่งแต่จะรักษาเส้นเสียงและแนวดนตรีของตัวเองให้ดีที่สุด
เรื่องราวเมื่อราชินีแห่งฮาร์ดร็อคโทรลล์พยายามที่จะครอบครองอาณาจักรโทรลล์ทั้งหมด ราชินี ป๊อปปี้ และเพื่อน ๆ ของเธอได้ลองวิธีต่าง ๆ เพื่อช่วย โทรลล์ ทั้งหมด ผ่าเทคโนโทรลล์ถูกโจมตีโดยบาร์คราชินีแห่งร็อคโทรลล์ท่ามกลางคอนเสิร์ตดีเจใต้น้ำและเธอขโมยเชือกของพวกเขา ในขณะเดียวกัน ป๊อปปี้ ราชินีแห่ง โทรลล์ได้รับคำเชิญจาก บาร์บ ที่เรียกเผ่า โทรลล์ ทั้ง 6 เผ่ามาร่วมงานปาร์ตี้เพื่อให้พวกเขารวมตัวดนตรีอีกครั้ง ราชาเป็ปปี้ ผู้เป็นพ่อของ ป๊อปปี้ อธิบายให้เธอฟังว่าแต่ละเผ่ามีดนตรีประเภทต่างกัน พวกเขาเป็น ป๊อป, พังค์, คลาสสิค, เทคโน, คันทรี่ และร็อค และแต่ละเผ่ามีสายเวทมนต์ที่ผู้นำของพวกเขาเก็บไว้ เพลงเฉพาะประเภท อย่างไรก็ตาม บาร์บ ตั้งใจที่จะขโมยทั้งหกสายและใช้เพื่อทำลายเพลงอื่น ๆ ทั้งหมดเพื่อรวม โทรลล์ ภายใต้เพลงร็อค
เมื่อเราเอาพลอตของหนัง Trolls ทั้ง 2 ภาคมาเทียบเรากลับพบความเชื่อมโยงในความต่างของภารกิจของพอปปีและแบรนช์ทั้ง 2 ครั้ง หากคราวที่แล้วพวกเขาต้องช่วยโทรลส์จากสัตว์ประหลาดที่จับพวกเขาเป็นอาหาร คราวนี้ก็กลายเป็นการปกป้องแนวเพลงตัวเองก่อนจะถูกกลืนกินจนอัตลักษณ์ของดนตรีตัวเองต้องหมดสิ้น จนสมองก็ซุกซนไปคิดถึงเรื่องราวความขัดแย้งทางชาติพันธุ์และสีผิวที่สหรัฐอเมริกาเมื่อไม่นานมานี้แบบอัตโนมัติเลยล่ะ
👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ ข่าววงการบันเทิง แวดวงคนดัง
No comments:
Post a Comment