Thursday, June 30, 2022

รีวิวเพลงใหม่ จาก เบิร์ดธงไชย คนโสด เหงา เศร้า โดนทิ้ง มากองรวมกันตรงนี้

ปลดล็อกความคิดถึงกับซิงเกิลล่าสุด “มากองรวมกันตรงนี้” จากอัลบั้มใหม่จาก เบิร์ดธงไชย เขากลับมาแล้ว ชายผู้มีเอกลักษณ์แห่งเสียงร้อง ใครได้ยินเป็นต้องร้อง "อ๋อ" หัวหน้าเผ่าชาวโสด เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ หรือว่า พี่เบิร์ด ที่หลายๆคนเรียกกัน ด้วยน้ำเสียงที่ฟังสบาย ลื่นหู ที่พี่เบิร์ดได้ขับร้องใส่ไปในแต่ละบทเพลง


“มากองรวมกันตรงนี้” เป็นอีกหนึ่งเพลงกับซิงเกิลล่าสุดของพี่เบิร์ด ที่เหมาะกับคนโสด คนที่เพิ่งโดนทิ้ง โดนหักอก หรืออกหักก็ต้องมามากองรวมกันตรงนี้เลย เพราะเพลงนี้เป็นเพลงของคนโสดอย่างแท้จริง ใครที่เพิ่งโดนทิ้งมานะ ฟังเพลงนี้แล้วคุณจะรู้สึกอยากโสดไปอีกนาน เสียใจได้แต่อย่านาน มากองรวมกันตรงนี้ แล้วพักกายพักใจไปกับเพลงฟังสบาย อารมณ์ดีเพลงนี้ของพี่เบิร์ดกันเถอะ กอดๆ


การฟังเพลงนี้ ในสไตล์เพลงของพี่เบิร์ดที่มีทำนองดนตรีแบบฟังสบายๆ ชิลล์ๆ เพลงในสวน อะไรทำนองนี้ มีกลิ่นอายแนวเพลงตามแบบฉบับของพี่เบิร์ดที่ชัดเจน แต่มีความสมัยใหม่ มีการเล่นคำร้องที่ทันสมัย เหมาะกับวัยรุ่น วัยที่กำลังมีความรักสดใส รวมไปถึงทุกเพศทุกวัยที่โสด เหงา เศร้า ผิดหวังกับความรักมาในส่วนด้านของเสียงร้องของพี่เบิร์ด ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั้น ก็มีความผสมผสานกันได้อย่างลงตัวอีกเช่นเคย เรียกได้ว่าดีครบทุกองค์ประกอบเลยทีเดียว คุณภาพเสียงเหมือนเดิมเป๊ะ สมกับการรอคอยมากๆเลย


ความประทับใจจากเพลงนี้ก็มากองรวมกันจริงๆแหละ เพราะเพลงนี้คงคอนเซ็ปต์ตามชื่อเพลงเลย ได้รวมเอาชื่อผลงานเพลงต่างๆของของพี่เบิร์ดมาใส่ในเนื้อร้องของเพลง ที่รวมกันมาอย่างเยอะมากๆ ชอบในความคิดสร้างสรรค์นี้สุดๆ รวมไปถึงการได้นักดนตรีมากฝีมือ ที่หลายๆคนเป็นที่รู้จัก มาเล่นดนตรีให้ และอีกหนึ่งความพิเศษที่วง Season Five มาเป็น Backing Vocal ทำให้เพลงนี้เต็มเปี่ยมได้ด้วยคุณภาพของทั้งนักร้องและนักดนตรีจริงๆ



👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมที่นี่ ติดตามข่าวต่างประเทศทั่วโลก

Tuesday, June 28, 2022

รีวิวเพลง 'SUGAR' 영재(Youngjae) - 2nd Mini Album

สวัสดีเหล่าอากาเซ่ทั้งหลาย วันนี้จะพาทุกคนไปเจอกับเพลงใหม่ของ ยองแจ got7 กันค่ะ ใครที่เป็นเมนยองแจนี่ต้องอวยกันแบบสุดฤทธิ์สุดเดชเลยค่ะ เพลงเขาดีจริง ๆ กับเพลง Sugar - Youngjae มินิอัลบั้มที่ 2 ของยองแจค่ะ ไหน ๆ ก็มีเพลงใหม่มาให้เหล่าอากาเซ่ได้ชื่นชมกันแล้ว 


  • 영재(Youngjae) - 2nd Mini Album 'SUGAR' _ [SUGAR] M/V


I wanna taste that sugar

ผมอยากจะลิ้มลองความหวานนั้น

So good but so bad

มันดีนะแต่ก็แย่เหมือนกัน

Just the taste of that sugar

แค่อยากจะลองรสชาติของความหวานนั้น

It’s okay if you lie to me

ก็โอเคนะถ้าเธอจะโกหกกัน


ท่อนนี้จีบสาวไม่พักจริงๆค่ะ ร้อนแรงสุด ๆ มีความรู้สึกว่าเธอก็ร้ายนะ แต่ก็แล้วไงฉันก็อยากจะลองอยู่ดี โหวว ลมจะจับเลยล่ะค่ะ  นอกจากเนื้อเพลงชวนเขินแล้ว น้ำเสียงของยองแจก็ยังคงคุณภาพเช่นเดิมค่ะ แต่ในเพลงนี้ลูกเล่นในเพลงของยองแจมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นค่ะ มีทั้งการร้อง การแร็พเบาๆ ซึ่งจุดนี้ทำให้เพลงมีเสน่ห์ขึ้นเป็นกองเลยค่ะ แต่จริงๆแล้วแค่ร้องเพลงเฉยๆ ก็เขินแล้วค่ะ ฮ่าา กลิ่นอายคล้ายๆ กับเพลง Vibin เลยค่ะ ถ้าใครชอบเพลงสไตล์สดใสฟังสบายๆ เพลง Sugar ของยองแจ ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ 




ในส่วนของฉากและการแต่งกาย ฉากนี่มีความสดใสสไตล์ยองแจเลยค่ะ สมกับการเป็น Sunshine ของวงจริงๆ สดใสกระแทกตาแบบแรงๆ เป็น MV ที่มีความสดใสทั้งสี ท่าเต้น บรรยากาศและฉาก อย่างฉากตารางหมากรุกใหญ่ก็โทนสีสดใส ฉากนั่งกินขนม ก็ดูมีความหวานๆ ตามชื่อเพลงเลยค่ะ ส่วนการแต่งกายใน MV นี่ต้องบอกเลยค่ะ นี่มันคุณชเว ชัดๆ มาลุคนี้จงใจจะมาขโมยหัวใจสาวๆ แน่นอน งานนี้ทีมแม่มีหวั่นไหวกันแน่นอนค่ะ55555 ใน MV ก็มีการแต่งตัวหลายสไตล์แต่ก็ยังคงคอนเซ็ปต์การสดใส หวานเจี๊ยบ ทั้ง เสื้อเชิ้ตสีดำบวกเสื้อสูทด้านนอก กางเกงขายาว เซตสูทขาว และสูทสีฟ้าบวกสีชมพู เป็นลุคที่มาคว้าหัวใจเหล่าแฟนโดยเฉพาะเลยล่ะ


นอกจากเพลง Sugar แล้ว ในมินิอัลบั้ม Sugar ของยองแจก็ยังมีเพลง Focus , Crema , Nothing และ With you อีกด้วยค่ะ เรียกได้ว่าไม่ว่าจะออกเพลงเดี่ยวหรือเพลงพร้อมกับเมมเบอร์ก็ล้วนแต่มีคุณภาพแบบเต็มเปี่ยมเลยล่ะค่ะ สำหรับใครที่อยากติดตาม ยองแจ หรือ AKA เจ้านากน้อยของเหล่าอากาเซ่ก็สามารถติดตามได้ที่ YouTube:영재 YOUNGJAE  Instagram: 333cyj333


👉👉 ติดตามสนับสนุนได้ที่นี่ ดูหนังออนไลน์เต็มเรื่อง


Monday, June 27, 2022

รีวิวซิงเกิ้ลเพลงใหม่ Left And Right Charlie Puth feat. Jung Kook of BTS

สำหรับซิงเกิ้ลเพลงใหม่ที่พึ่งปล่อยมาสดๆ ร้อนๆ ผลงานเพลงของหนุ่ม Charlie Puth  เจ้าของเพลงดังมากมาย เช่น  We Don't Talk Anymore , One Call Away , How Long หรือเพลงที่โด่งดังอย่าง  See You Again  เพลงประกอบ Furious 7 Soundtrack แน่นอนว่าไม่ว่าหนุ่ม Charlie Puth  จะปล่อยเพลงไหนก็โด่งดังทุกเพลง และครั้งนี้เขากลับมากับผลงานซิงเกิ้ลใหม่อย่างเพลง Left And Right และสุดเซอร์ไพร์ที่ได้น้องเล็กของวง BTS อย่างจองกุก BTS บอยแบนด์ชื่อดังแดนกิมจิ มาร่วมแจมร้องด้วย ซึ่งทั้งคู่นั้นเคยร้องเพลงร่วมกันมาแล้วในงานประกาศรางวัล MGA 2018 กันมาแล้ว



สำหรับเพลง Left And Right งเป็นแนวเพลง ป๊อบ ที่ทันสมัย ฟังง่ายฟังครั้งเดียวฟังแล้วติดหูมาก ๆ ตั้งแต่ฟังเพลงครั้งแรกติดเพลงเอามากๆ แต่ยิ่งนับวันเพลงยิ่งสั้นไปเรื่อย ๆ 

สำหรับคอสตูมจะเน้นไปทางเรียบง่ายและทันสมัย เช่นสวมสูท แต่จะไปเล่นไปทางสีชุดที่เล่นสีได้ตัดได้ดีมากๆและลงตัวสุดๆอย่างเช่นใน MV  Charlie Puth สวมชุดสูทสีเขียวมะนาวกำมะยี ตัดกับสีทุกเท้าสีชมพูบานเย็น หรือ ชุดของจองกุก ที่ชมพูทั้งตัวไปเลยแม่ เท่มาก ฉากก็ทีความเรียบง่ายส่วนใหญ่จะใช่มุมจากกล้องแท่นสีของภาพก็สดและคมชัดดี โดยรวมคือดีมากกกกกก



" Memories follow me left and right

I can feel you over here I can feel you over here

you take up every corner of my mind

your love stays with me day and night

I can feel you over here I can feel you over here

you take up every corner of my mind

whatcha gon do now "

เนื้อเพลงเพราะท่อนนี้มีความหมายที่ว่า แม้เธอจะจากไปในความทรงจำก็ยังมีเธอมาวนเวียนทำให้คิดถึงตลอดเวลา และความรักที่เธอเคยให้ก็ยังอยู่ไม่เคยหายไปเพราะเชื่อว่าเธอยังอยู่ตรงนั้น ซึ่งเป็นเพลงอกหักที่แสดงถึงความสวยงามของความรักที่ไม่มีวันจางหายไปไหนของคนๆหนึ่งที่ไม่สามารถมูฟออนจากจุดๆเดิมได้  ซึ่งเป็นความหมายที่ดีมากๆ  โดยรวมของเพลงนี้คือดีมากๆ สามารถไปรับชมและฟังในยูทูปของ Charlie Puth กันเลยน้า

ช่องทางการติดตาม

  • Facebook :Charlie Puth
  • twitter : Charlie Puth
  • Instagram :charlieputh
👉👉 ติดตามสนับสนุนได้ที่นี่ รีวิวหนังสารคดีและชีวประวัติ

Saturday, June 25, 2022

รีวิว Step Up 2: The Streets สเต็ปโดนใจ หัวใจโดนเธอ 2

Step Up 2: The Streets สเต็ปโดนใจ หัวใจโดนเธอ 2 ในภาคแรกนั้นถือว่าเป็นหนังรักที่คนสองคนสื่อใจจนตรงกันผ่านท่วงท่าภาษากาย (หรือการเต้น) ในขณะที่ภาคสองและภาคต่อจากนี้ หนังจะเริ่มเป็นเน้นที่ลีลาการเต้นแบบเต็มตัว โดยจะมีเรื่องรักๆ ของวัยรุ่นแทรกลงมาเป็นเรื่องรอง


เรื่องราวเกี่ยวกับสาวน้อยนางหนึ่งที่เป็นนางเอกนามว่า Andie West (Briana Evigan) ที่เป็นนักเต้น Hip Hop B-Boy Street Dance ข้างถนน และอยู่ในกลุ่มก๊วนกวนเมือง 410 ที่คอยเต้นป่วน และโชว์ฝีมือการกระทำลงใน Youtube จนทำให้ผู้อุปถัมภ์ค้ำชู เกิดอาการอดรนทนไม่ไหว จะส่งเธอไปอยู่ที่อีกเมือง เลยทำให้เพื่อนเก่าเพื่อนแก่และเปรียบเสมือนพี่ชายคนโตอย่าง Tyler Gage (หนุ่มตาตุ่ม: Tatum จากภาคแรก) เข้ามาเกลี้ยกล่อมและสร้างแรงบันดาลใจ เบ็นเข็มชีวิตใหม่เข้าสู่โรงเรียนสอนศิลปะ และการแสดงของแมรี่แลนด์ ทำให้เธอได้พบกับชายหนุ่มจอมให้ท่าผู้เป็นพระเอกอย่าง Chase Collins(Robert Hoffman) เข้ามาสู่ชีวิต ต่างคนต่างช่วยเหลือกัน ทำตามความฝัน และฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อไปสู่เป้าหมาย คือ การแข่งขันการเต้น The Streets พร้อมกับพรรคพวกที่ต่างคนต่างอยากได้การยอมรับนับถือในความสามารถที่แฝงอยู่ในตัวทุกคน 


ภาพยนตร์แนวๆ นี้คงไม่ต้องกล่าวอะไรมาก เพราะคนดูสามารถเดาได้อย่างตลอดรอดฝั่งว่าจะเป็นอย่างไร และที่สำคัญเป็นหนังภาคต่อที่หลายๆ คนได้ยินคงปรามาสไว้ว่า “จะดีเร้อ ภาคแรกก็สูตรสำเร็จ ภาคนี้ก็คงไม่ต่างกัน”  ใช่ ไม่ต่างกัน แถมบทโดยรวมสู่ภาคแรกยังไม่ค่อยได้ เพราะมีการตัดหลายฉากที่ค่อนข้างเป็นดราม่าออกไป ไปโฟกัสที่ชีวิตน้องนางเอกยิ้มหวานแอบมีพุงคนเดียว  ทำให้ความเชื่อมโยงของตัวละครบางตัวหลุดวงโคจร เหมือนเอาเข้ามาเป็นตัวประกอบไปงั้นๆ ทั้งๆ ที่ในหนังตัวอย่าง มีตัวละครนี้ออกมาพูดแว๊ดๆ ยั่วพระเอก และสร้างปมและประเด็นในเรื่องรักสามเส้า และทำให้พระเอกเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่าต้องการทำตามความฝันไปพร้อมกับนางเอก แต่กลับหายต๋อม กลายเป็นมาเดินพยายามสวย ผ่านหน้ากล้อง เต้นยึกยักที 2 ที ทำตาจิกอีก 2 ครั้ง ปิดท้ายด้วยยิ้มแป้นแล้น แค่เนี๊ยะ เอามาทำไม ประมาณว่า “ตกลงยัยคมเข้มนี่มันเป็นใครอ่ะ ตกลงมันเป็นตัวอิจฉาหรือเปล่า เดี๋ยวจิก เดี๋ยวดี งงฟ่ะ”


สรุปหนังไม่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของบท และความเข้มข้นของเนื้อหาได้ดีนัก แม้จะมีแฝงประเด็นด้านความแตกต่างของบุคคลลงไป และบทสนทนาที่คมคายในบางช่วง แต่ความหนักแน่นของท่าเต้นและความมันส์ของเพลงนั้นทำให้ข้อด้อยตรงนี้โดนกลบไปได้พอตัว แน่นอนสร้างความเพลิดเพลินให้ผู้ชมได้อย่างดี และที่สำคัญคอเพลง Hip Hop รวมถึงก๊วนที่ชอบแดนซ์ B-Boy รับรองว่าจะชอบภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างมาก และเอามาเป็นแรงบันดาลใจ เช่นเดียวกับที่เราเองดูจบแล้วมาทำหน้าเป็นพระเอก เต้น Hip Hop อยู่หน้าคอมจนกระเบื้องปูพื้นแตกเลย

👉👉 ติตตามสนับสนุนได้ที่นี่  รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส

Thursday, June 23, 2022

รีวิว หมอลำซัมเมอร์ ละครโรแมนติกคอเมดี้เสียงพิณเสียงแคนของวงหมอลำดัง

หมอลำซัมเมอร์ ช่อง 7HD ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น.  นำแสดงโดย  บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ บุตรพรม และ สกาย  มาเรีย นักแสดงดาวรุ่งที่จะมาพิสูจน์ฝีมือในบทนางเอกละครหลังข่าวค่ำเต็มตัวเรื่องแรก กับผลงานล่าสุดละครโรแมนติกคอเมดี้เรื่อง “หมอลำซัมเมอร์” ของค่าย ดาราวิดีโอ สร้างจากบทประพันธ์ของ อาริตา  บทโทรทัศน์โดย ตุณย์ กำกับโดย ฬอน-คณวัชร สังวริบุตร


เรื่องราวเสียงพิณเสียงแคนของวงหมอลำดังไปทั่วสนามบิน โดยมียายดวง (สุนารี ราชสีมา) ที่เป็นผู้ก่อตั้งวงหมอลำพิณเพลินนั้นได้นำวงหมอลำมารับ แอนนี่ (สกาย มาเรีย) หลานสาวแท้ ๆ เป็นสาวลูกครึ่งไทยอเมริกัน บินกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองไทย ด้านสัตยา (บิ๊กเอ็ม-กฤตฤทธิ์ บุตรพรม) เองก็มารับ ทัสนา (พลอย-รัญดภา มันตะลัมพะ)น้องสาวที่สนามบินเหมือนกัน แต่ดันเกิดเหตุการณ์หยิบกระเป๋าสลับกับแอนนี่ ทำให้ทัสนากับแอนนี่ต้องโคจรมาเจอกันอีกครั้ง และยังทำให้ทัสนามาเจอกับเอกราช (ไต้ฝุ่น-ตากเพชร เลขาวิจิตร)ซึ่งเป็นเพื่อนของแอนนี่



เอกราชชอบทัสนาตั้งแต่แรกเจอจึงขอให้แอนนี่คอยช่วยเป็นแม่สื่อ เอกราชเดินหน้าจีบทัสนาโดยเข้าทาง สายทิพย์ (เงาะ-กชกร นิมากรณ์) ซึ่งเป็นแม่ของทัสนาและสัตยา ขณะนั้นอินทิรา (ครีมมี่-พลอยปภัส อิสระพงศ์พร)หมอลำประจำวงของยายดวงบาดเจ็บโดนรถชนจึงทำให้ขาดนักร้องนำ ยายดวงจึงขอร้องให้หลานสาวสุดที่รักช่วยเป็นหมอลำไปก่อน โดยตั้งชื่อให้ว่า “เดือนเด่น แดนดาว” และต่อมาก็กลายเป็นขวัญใจของชาวอุบลฯ สัตยาเจ้าของค่ายเพลงคิตตี้คีย์ ได้เซ็นสัญญาให้แอนนี่เป็นนักร้องในสังกัดและปั้นแอนนี่จนดังกลายเป็นซุปตาร์และมีsingle ยอดวิวในยูทูบหลักล้านในเวลาอันรวดเร็ว สัตยากับแอนนี่เริ่มสานสัมพันธ์กันเงียบ ๆ เพราะไม่อยากให้แอนนี่มีข่าวเกี่ยวกับความรักและอยากให้โฟกัสที่งาน




ด้านพรีม (มายด์-พัฒนิดา พุ่มชูแสง) แฟนเก่าสัตยาเป็นนักร้องในสังกัดซอลต้าเรคคอร์ดค่ายเพลงเบอร์ 1ของวงการ พรีมอิจฉาที่แอนนี่มียอดวิวที่สูงกว่าตน คมกฤช (พล-พูลภัทร อัตถปัญญาพล) เจ้าของค่ายซอลต้าฯจึงได้ปรับลุคใหม่ให้พรีมจากสตริงมาเป็นลูกทุ่งหมอลำเพื่อแข่งกับแอนนี่ โดยตั้งชื่อว่า “ยุพา พิณเพลิน” แต่ single ของพรีมก็ดันแป้กไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ค่ายเพลงของคมกฤชเริ่มแย่ลงแต่ค่ายเพลงของสัตยากลับรุ่งเรืองเป็นที่นิยมขึ้น คมกฤชแค้นสัตยามากจึงกลั่นแกล้งและต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะเอาชนะสัตยา เช่น ใส่ร้ายแอนนี่ว่าเป็นนักร้องเสพยาบ้าง จ้างคนไปป่วนในงานคอนเสิร์ตแอนนี่บ้าง แต่ก็ไม่สำเร็จ ทำให้คมกฤช ยิ่งเครียดและไประบายอารมณ์ทุบตีทำร้ายพรีมที่กำลังท้องลูกของตัวเองอยู่ พรีมหนีมาหาสัตยาให้ช่วย แอนนี่และสัตยาจึงพาพรีมมาซ่อนตัวที่บ้านยายดวงที่อุบลฯ เมื่อเวลาผ่านไปเอกราชกับทัสนาได้แต่งงานกัน ทันใดนั้นคมกฤชได้บุกมางานทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายชุลมุนขึ้น 


👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมที่นี่ รีวิวหนังรักคอมเมดี้

Wednesday, June 22, 2022

ลำเพลินอีสาน ISAN ORCHESTRA ของ ลำเพลิน วงศกร

ประทับใจเป็นอย่างมากสำหรับแฟนเพลงลูกทุ่งในงานไร้ Streaming ของลำเพลินวงศกรในชื่อลำเพลินอีสาน ISAN ORCHESTRA วันที่ 11 มิถุนายน 2565  ถือได้ว่างานนี้เป็นงานใหญ่จัดที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์มหาวิทยาลัยมหาสารคามซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่ ลำเพลินวงศกร ศิลปินผู้มากฝีมือ ได้จบการศึกษาออกมาโดยในงานคอนเสิร์ตครั้งนี้มีคอนเสิร์ตนำเสนอบทเพลงที่ไพเราะมากมายจึงนำบทเพลงที่ชอบมากที่สุดมาแนะนำให้ทุกท่านได้ลองไปฟังกัน


เพลงโรคซึมเหล้า เป็นบทเพลงที่ทำดนตรีเป็นวงออกัสต้าและนำดนตรีสากลมาสร้างบรรยากาศความยิ่งใหญ่โดยลำเพลินวงศกรร้องเพลงนี้โดยใช้ลูกคอของเพลงอีสานภาษาอีสานท่วงทำนองที่ผิวไปกลับดนตรีพร้อมทั้งอารมณ์ที่สื่อสารออกมาทำให้บทเพลงนี้เข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกของผู้ฟังได้ดีเป็นอย่างยิ่งหลายครั้งที่ผู้ฟังอดร้องตามไม่ได้เพราะเนื้อเพลงนั้นกินใจเหลือเกิน


เพลงรำคาญกะบอกกันเด้อ เป็นบทเพลงที่ใช้วงออฟฟิศต้าเป็นดนตรีรักเหมือนกันแต่เหมือนมีแฟนเป็นตัวชูโรงพร้อมต้องมีการประสานเสียงของดนตรีอีสานเข้ามาทำให้บรรยากาศความยิ่งใหญ่ของบทเพลงและลีลาท่วงทำนองของดนตรีอีสานภาษาอกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวมีพลังเป็นอย่างมากแม้มีเนื้อเพลงเศร้าจัดแต่โดยภาพรวมแล้วเพลงนี้เป็นอีกเพลงหนึ่งที่นำเสนอออกมาได้เป็นอย่างดีในเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของการใช้ภาษาในการแต่ง เพลงและถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้เป็นอย่างดี



นอกจากนี้ยังมีการแสดงแคนวงจาก ฮุ้งแคนวง และศิลป์อีสานกลองยาวขของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งเป็นดนตรีอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีการแสดงดนตรีของชาวอีสานและการเสพดนตรีของชาวอีสานที่มีการสืบทอดกันมาอย่างยาวนานหลายครั้งที่ทำให้ผู้ฟังอย่างเช่นตัวผู้เขียนเองอดลุกขึ้นฟอลด้วยไม่ได้รู้สึกถึงความสนุกสนานในบทเพลงนั้นโดยเฉพาะศิลป์อีสานกองยาวทำให้ผู้เขียนสนุกสนานเป็นอย่างยิ่ง


คอนเสิร์ตนี้เป็นคอนเสิร์ตที่แสดงให้เราเห็นว่าจริงๆแล้วดนตรีอีสานหรือดนตรีพื้นถิ่นอื่นๆหาใช่พรมแดนกันความเจริญหรือกั้นความรู้สึกเป็นดนตรีที่ผสมภาษา สอดรับอารมณ์ความรู้สึกความยิ่งใหญ่ที่ถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะท่วงทำนองของบทเพลงอีสานที่มีความจริงใจการใช้ภาษาที่เรียบง่ายแต่กินความมากเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกในห้องความคิดของคนฟังได้เป็นอย่างดีและมีเสน่ห์

👉👉 ติดตามสนับสนุนได้ที่นี่ ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022

Tuesday, June 21, 2022

เพลง “ไม่ไหวแล้ว” OST. Sing Again รักอีกครั้ง เวอร์ชั่น เซ้นต์ x พรีน

สำหรับเพลง “ไม่ไหวแล้ว” ซึ่งเป็นเพลงน่ารักสุดฟีลกู๊ดประกอบ ‘ซีรีส์ Sing Again รักอีกครั้ง’ จากทรู ซีเจ ครีเอชั่นส์ (TRUE CJ Creations) ที่ในครั้งนี้มาในรูปแบบSpecial สุด ๆ เพราะเป็นเวอร์ชั่นพิเศษที่ร้องโดย 2 นักแสดงในเรื่อง อย่างหนุ่ม “เซ้นต์ ศุภพงษ์” และ “พรีน รวิสรารัตน์” หรือที่หลายคนจะรู้จักเธอในนาม พรีน เดอะสตาร์ นั่นเองค่ะ  มารับฟังเพลงนี้กันว่าหนุ่มเซ้นต์จะร้องเพลงเพราะขนาดไหน เวอร์ชั่นนี้ฟังแล้วจะฟินฟังเพลินชนาดไหน 


ไม่ไหวแล้ว OST. Sing Again รักอีกครั้ง เวอร์ชั่น เซ้นต์ x พรีน


เพลง ไม่ไหวแล้ว เป็นหนึ่งเพลงสุดคิ้วท์ที่เป็นเพลงประกอบซีรีส์ Sing Again รักอีกครั้ง ซึ่งเวอร์ชั่น Original คือ ซินซิน ไอรดา (Cincin Irada) และ โฟล์ค เขมภูมิ (Folk Kemmapoom) โดยในเวอร์ชั่นพิเศษนี้ได้สองนักแสดงในเรื่องอย่างหนุ่ม เซ้นต์ ศุภพงษ์ และ พรีน รวิสรารัตน์ หรือ พรีน เดอะสตาร์ มาร้องฟีจกัน โดยในเพลงไม่ไหวแล้วเป็นหนึ่งเพลงที่มีความสดใสมาก อย่างในพาร์ทของดนตรีนั้นมีจังหวะดีน่ารัก มีเมโลดี้ติดหู ชนิดที่ว่าฟังแล้วนั้นฟีลกู๊ดไม่ไหว! 


โดยเสียงของเซ้นต์นั้นจะมีความละมุน สดใส มีความทุ้มหน่อย ๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นเสียงที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ๆ และส่วนเสียงของสาวพรีนนั้นจะมีความใสมาก เพราะไม่ไหว ด้วยความที่เป็นนักร้องทำให้การร้องของพรีนนั้นมีเทคนิคการร้องที่ดีเป็นอย่างมาก สามารถขึ้นเสียงสูง-ต่ำได้ดี ฟังแล้วลื่นหู~ โดยเมื่อฟีจเจอริ่งร้องผสมผสานกันแล้วนั้น เป็นอะไรที่ลงตัว ฟังไปเพลินไปแบบสุด! ต้องบอกเลยว่านอกจากตัวอย่างทีเซอร์ในซีรีส์ Sing Again รักอีกครั้งจะฟินกระจายแล้วนั้น เพลงไม่ไหวแล้วในเวอร์ชั่นพิเศษ เซ้นต์ x พรีน ที่ปล่อยน้ำย้อยออกมานั้น ก็ดีต่อใจไม่ไหวเลยละค่ะ 


👉👉 ติดตามสนับสนุนได้ที่นี่ รีวิวหนังสารคดีและชีวประวัติ

Monday, June 20, 2022

3 เพลงประกอบภาพยตร์ "หมอปลาวาฬ" ดูหนังจบ อารมณ์ไม่จบ


ภาพยนตร์ หมอปลาวาฬ Story จากภาพยนตร์ไทบ้านเดอะซีรีส์ [จักรวาลไทบ้าน] จบกันไปแล้วอารมณ์ไม่จบ อยากชวนมาบรรเทาด้วย MV เพลงประกอบภาพยตร์ ลองดูเอ็มวีที่มีเนื้อหาเพิ่มเติมเล็กน้อยจากในหนังเพื่อจะช่วยบรรเทาลงบ้าง



คิดฮอดในฐานะอีหยัง - กวาง จิรพรรณ : เซิ้ง|Music [Story จักรวาลไทบ้าน-หมอปลาวาฬ]【Official MV】โดยเนื้อหามาจากประโยคเด็ดของจ่าลอดในภาค "ไทบ้าน × BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้" ที่ได้เอ่ยถามหมอปลาวาฬว่า "บ่คิดฮอดแหน่บ่" แล้วหมอปลาวาฬตอบกลับไปว่า "จำเป็นต้องคิดฮอดอยู่บ่" ล่ะถามกลับไปว่า "ซิให้..คิดฮอดในฐานะอีหยัง" จึงเป็นที่มาของชื่อเพลง โดยมีนักร้องสาวของค่ายเซิ้ง Music กวาง จิรพรรณ เป็นผู้ถ่ายทอดอารมณ์เพลง และเป็นการปูเข้าสู่เรื่องราวของเรื่องราวในหนัง "หมอปลาวาฬ" เนื้อหาใน MV จะพาคุณไปย้อนอดีตสมัย ไทบ้าน เดอะซีรีส์ ที่จ่าลอดคบหากับหมอปลาวาฬ กับเรื่องราวในหนังหมอปลาวาฬที่จ่าลอดพยายามจะกลับมาเป็นเพื่อนกับหมอปลาวาฬอีกครั้ง ถือว่าเป็นอีกบทเพลงที่โดนใจคนโดนที่โดนเท แต่เขายังกลับมาวุ่นวายด้วยอยู่ โดยท้าย MV จะเป็นตัวอย่างหนังแบบย่อเรียกน้ำย่อย


ผ่านไป - กวาง จิรพรรณ : เซิ้ง|Music [Story จักรวาลไทบ้าน-หมอปลาวาฬ]【Official MV】  โดย MV นี้มีประโยคเด็ดจากหมอแจ๊ก และได้ถูกใช้ในการโปรโมทเชิญชวนให้คนมาดูหนังกัน เริ่มจากหมอปลาวาฬที่เป็นคนถามหมอแจ๊กว่า "คนเฮาเนี่ย เลิกกันไปแล้ว มันสิกลับมาเป็นหมู่กันได้บ่" หมอแจ๊กก็ได้ตอบกลับไปว่า "มึงรู้ตัวไหมว่าหำกำลังครอบงำมึง" จนถูกเอาไปใช้เป็นคำโปรยโปรโมทหนังว่า "คนที่เคยฮักกันเคยมีหยั๋งกันแล้วมันสิกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกได่อยู่บ้อ" และ "อีหำบังตา..." เนื้อหาของเอ็มวีเรียกว่าโดนสปอยไปเยอะเหมือนกัน กับช็อตที่จ่าลอดพยายามกลับมาเป็นเพื่อนกับหมอปลาวาฬ และได้เห็นว่าหมอปลาวาฬเองก็สับสนเหมือนกันว่าจะเป็นเพื่อนกันไปจริงไหม? ไหนจะตอนที่หมอปลาวาฬเมาแล้วเขียนหน้าจ่าลอด ตอนที่ลอดเอาแหวนมาให้หมอปลาวาฬ ในส่วนของเพลงนั้นได้ กวาง จิรพรรณ เป็นผู้ร้องอีกครั้ง เนื้อเพลงค่อนข้างบอกให้รู้ว่าหมอปลาวาฬกำลังจะมูฟออนจากเรื่องของจ่าลอดไปได้อย่างแน่นอน และถือเป็นเพลงที่ให้กำลังใจกับคนที่จะมูฟออนจากการโดนเทได้อีกด้วย


ฮักมื้อสุดท้าย - อัน พิไลพร : เซิ้ง|Music [Story จักรวาลไทบ้าน-หมอปลาวาฬ]【Official MV】 เพลงนี้ได้ อัน พิไลพร เป็นผู้ร้อง เรียกว่าเปิดเรื่องของ MV มาก็เจอหมอปลาวาฬยืนนิ่ง ๆ อยู่กับจ่าลอดที่มาในทรงผมใหม่ กับชุดสูทหรู พร้อมกับเอ่ยกับจ่าลอดว่า "ดีใจนำเด้อ" ทั้งที่ทำท่าแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เอาจริงใครดู MV นี้แทบจะเดาตอนจบได้เลยทีเดียว เนื้อหาใน MV เปิดเผยเรื่องราวในหนัง "หมอปลาวาฬ" ที่เล่าย้อนไปตอนที่จ่าลอดทำให้หมอปลาวาฬเข้ามาติดอยู่ในลูปนี้อย่างหาทางออกไม่เจอ ที่เธอได้เจอคนไข้ของเธอเสียชีวิตอย่างช่วยเอาไว้ไม่ได้ ทำให้จ่าลอดพาไปทำพิธีเรียกขวัญ จนทำให้หมอปลาวาฬรู้สึกดีกับจ่าลอดอย่างมาก และใน MV ได้ลำดับช่วงเวลาตั้งแต่เจอกันครั้งแรก เดทแรก โดนเทแบบงง ๆ แต่ก็ยังมีมาวนเวียนทำให้ใจว้าวุ่นอีก ไหนจะฉากที่หมอปลาวาฬไปนอนในห้องจ่าลอดแล้วตื่นมาเจอรูปครูแก้วกับจ่าลอด ทำเอาจิ๊ดใจไปเลย ละตัดฉากมาที่แต่งตัวเตรียมไปงานแต่งของจ่าลอดกับครูแก้วเรียกว่าโดนสอยตอนจบกันไปเต็ม ๆ เลย ในส่วนของเนื้อหาเพลงนั้นเป็นการแสดงความยินดีกับคนรักเก่าที่ได้พบเจอรักใหม่ ทั้งที่ตัวเองยังมูฟออนไม่ได้เลย แต่ก็ถือเป็นก้าวแรกที่จะได้มูฟออนซักที


สำหรับ MV ทั้งสามเพลงนี้ได้สื่อสารไปทางเดียวกันว่าหมอปลาวาฬต้องมูฟออนให้ได้ จ่าลอดมันคนชั่ว ไปต่อได้แล้ว เดี๋ยวมันก็ "ผ่านไป" กับ "ฮักมื้อสุดท้าย" ไม่ต้องไป "คิดฮอดในฐานะอิหยัง" กับคนนิสัยสุนัขคือจ่าลอดได้แล้ว คนเขียนกำหมัดแล้วนะ ฮ่า ๆ ก็หวังว่า MV เพลงประกอบภาพยตร์ "หมอปลาวาฬ" สามเพลงนี้จะช่วยสรุปอารมณ์ของหนังได้อย่างรวบรัด ให้เราไปต่อกับภาคต่อไปกันบ้าง ผมก็เฝ้ารออยู่เหมือนกันกับภาค "สัปเหร่อ"

👉👉 ติดตามสนับสนุนได้ที่นี่ รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส

Saturday, June 18, 2022

เพลง คาถาขุนแผน (หลวงพ่อกวย) ของ กานต์ ทศน บทเพลงจากรากแห่งความศรัทธา

เพียงขึ้นวรรคแรกของบทเพลง ด้วยลูกคอของลูกทุ่งภาคกลาง ก็ทำให้หลายคนรู้สึกสึกอารมณ์ของมนต์ขลังในบทเพลงเสียแล้ว เพลงนี้ คือ คาถาขุนแผน (หลวงพ่อกวย) ร้องโดย กานต์ ทศน เรียบเรียงโดย เอ็ม นาโนน, บอส ศตวรรษ เสน่ห์ของบทเพลง เป็นการนำเอาพระคาถาขุนแผนของหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม จังหวัดชัยนาท มาแปลงเป็นเพลง โดยเชื่อกันว่าพระคาถานี้มีคุณในทางด้านของเมตตามหานิยม เสกใส่แป้ง น้ำหอม เวลาแต่งตัว รวมถึงสามารถเสกใส่ของกินได้ ทำให้คนรัก คนหลง ดีนัก


โอมสิทธิท้าวฟื้นเจริญศรี

ให้ลูกมีคนรักคนเมตตา

ให้ลูกโด่งดังกับเขาเถิดหนา

ชื่อเสียงก้องฟ้าคนรักมากมาย


จุดเริ่มต้นของบทเพลง ได้นำเสนอความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของตน ที่มีปัญหาอุปสรรคมากมาย ตัวเขาเองมองไม่ทางใด ก็ไม่เห็นทางออก ทำให้เห็นว่าวิถีชีวิตของคนไทยนั้น มีพระศาสนาเป็นที่พึ่งทางจิตใจ



ชีวิตลูกแย่ เลยมาวัดบ้านแควันนี้

พ่อกวยช่วยลูกทีอยากจะมีชื่อเสียงเหมือนเขา

ทำงานหลายปียังไม่พ้นจากความปวดร้าว

พ่อช่วยบรรเทาความทุกข์ในใจลูกที


หลวงพ่อกวย ซึ่งท่านเป็นเหมือนที่พึ่งทางใจให้กับเขาในยามทุกข์ยาก จึงมาขอพร ให้ตนเองนั้นมีชื่อเสียง หาเงินทองเลี้ยงครอบครัว และบรรเทาความทุกข์ในจิตใจลงได้ ทั้งกายและใจของเขามอบเป็นศิษย์กับหลวงพ่อกวย


วอนพ่อกวยช่วยดลให้คนรักคนเมตตา

มีวาสนาโด่งดังกับเขาสักที

ให้มีเงินมีทองมาล่อเลี้ยงครอบครัววันนี้

ฝากชีวีตัวลูกเป็นศิษย์สักคน


โอมสิทธิท้าวฟื้นเจริญศรี บทเริ่มต้นอ้างถึงเทวดาผู้ช่วยดลบันดาลให้มีคนรักคนเมตตา จากนั้นเขาจึงร่ายพระคาถา โดยอ้างอิงฤทธิ์ที่เกิดขึ้นกับ พระแมน พระนารายณ์ และพระจันทร์ ซึ่งเทพทั้ง 3 เป็นเทพที่มีฤทธิ์ในสวรรค์ โดยเฉพาะพระจันทร์นั้น การอาบน้ำแสงจันทร์ ช่วยให้เป็นที่รักทั้งแก่มนุษย์ อมนุษย์ และเทวดาทั้งหลาย



อมสิทธิท้าวฟื้นเจริญศรี

ให้ลูกมีคนรักคนเมตตา

ให้ลูกโด่งดังกับเขาเถิดหนา

ชื่อเสียงก้องฟ้าคนรักมากมาย

โอมให้หน้ากูงามคือดั่งพระแมน

ให้แขนกูงามดั่งพระนารายณ์

ให้ฤทธิ์กูงามดั่งพระจันทร์ฉาย

สาวเมืองสวรรค์ยังอยู่บ่ได้เมื่อเห็นหน้ากู


สรุปแล้วเพลงคาถาขุนแผน (หลวงพ่อกวย) ของ กานต์ ทศน นับได้ว่าเป็นบทเพลงที่นำพระคาถา มาผสานกับท่วงทำนองของเพลงไทยลูกทุ่งได้อย่างลงตัว นับเป็นบทเพลงที่จากรากแห่งความศรัทธา อำนวยรักเมตตาสู่สาธุชน

👉👉 ติดตามสนับสนุนได้ที่นี่ รวมข่าวบันเทิง ดารา ศิลปิน ไอดอล ต่างประเทศ


Friday, June 17, 2022

รีวิวซีรีย์ The Rhythm of Life (2022) จังหวะชีวิตอาจสะดุด แต่ไม่อาจหยุดความฝันพวกเขาได้

จังหวะชีวิตลิขิตฝัน The Rhythm of Life ช่อง Thai PBS  นำแสดงโดย ตน ต้นหน ตันติเวชกุล ที่ประกบคู่กับ โมบายล์ BNK48 พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค ละครน้ำดีสร้างสรรค์สังคมที่เตรียมขับเคลื่อนแรงบันดาลใจในการทำตามฝันของเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เป็นจริง ผ่านสุทรียภาพทางดนตรี ของเหล่านักแสดงคุณภาพ



เรื่องราวของ อคิณ (ตน ต้นหน)  นักเรียนชั้น ม.5 ผู้วาดฝันจะใช้เสียงกลองสแนร์ของตัวเองพาวงโยธวาทิตโรงเรียนชนะวิทย์คว้าแชมป์การประกวดระดับประเทศเพื่อเป็นใบเบิกทางไปสู่การแข่งขันต่อระดับโลก แต่แล้วอคิณ (ตน ต้นหน)  ต้องพบกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อเขาเข้าไปมีส่วนพัวพันกับการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของรุ่นน้องคนสำคัญในวง ทำให้อคิณ (ตน ต้นหน) ย้ายโรงเรียนไป และแท็ป (พีค ภีมพล) เพื่อนสนิทของอคิณ (ตน ต้นหน)จึงได้ขึ้นมาเป็นสแนร์มือหนึ่งของโรงเรียนแทน



ที่โรงเรียนใหม่ อคิณ (ตน ต้นหน) ได้พบกับริน (โมบายล์ BNK48) ครูฝึกสอนวงโยธวาทิต แห่งโรงเรียนไมตรีอุปถัมภ์ ผู้จุดประกายความหวังและความฝันในชีวิตของเขาขึ้นมาอีกครั้ง อคิณ (ตน ต้นหน)และแท็ป (พีค ภีมพล) ได้โคจรมาพบกันอีกครั้งในการแข่งขันวงโยธวาทิตระดับประเทศ การแข่งขันครั้งสำคัญในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร แล้วอคิณ (ตน ต้นหน) จะได้เรียนรู้ ปรับตัวผ่านอุปสรรค ชุบชีวิตความฝันที่เคยวาดไว้ให้กลับคืนมาอีกครั้งได้หรือไม่คงต้องตามเอาใจช่วยกัน ติดตามชมละคร "The Rhythm of life จังหวะชีวิต...ลิขิตฝัน"  ทุกวันเสาร์- อาทิตย์ เวลา 20.15 21.10 น. ทาง ไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3


รายชื่อนักแสดง The Rhythm of Life จังหวะชีวิต...ลิขิตฝัน

  • ตน ต้นหน ตันติเวชกุล รับบท อคิณ
  • โมบายล์ BNK48 พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค รับบท ริน
  • พีค ภีมพล พาณิชย์ธำรง รับบท แท็ป
  • บิว ธนัชญา ตรีสิริเกษม รับบท เกรซ
  • เจเจ แดน พฤกษ์พยุง รับบท กิจ
  • กัน เสฐพงษ์ เอวสุข รับบท แมน
  • วิน ฐานวัฒน์ อุดมวรานนท์ รับบท เอก
  • เดวิด อัศวนนท์ รับบท ผอ.ปรีดา
  • สมมาตร ไพรหิรัญ รับบท ภัทร
  • ปาริฉัตร ไพรหิรัญ รับบท ปุ๋ย
  • เต้ ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ รับบท ศักดิ์
  • ญาณวี คุปตะเวทิน รับบท รัตน์
  • บอล วิธวัฒน์ สิงห์ลำพอง รับบท ครูเบน
  • ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ รับบท ครูอิ๊งค์
  • นาถ ยุวทิพย์ อาระยานิมิตสกุล รับบท ครูเอิร์ท 
👉👉 ติดตามสนับสนุนได้ที่นี่ รีวิวหนังรักคอมเมดี้

Thursday, June 16, 2022

แนะนำอนิเมะแนวดนตรีฟีลกู๊ด Carole & Tuesday เส้นทางของคนที่รักในเสียงเพลง

Carole & Tuesday เป็นอะนิเมชั่นซีรีย์ใน Netflix เกี่ยวกับดนตรี เนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับยุคที่มนุษย์โลกอพยพไปอาศัยอยู่ที่ดาวอังคาร สาวน้อยลูกคนรวยชื่อทูสเดย์ หนีออกจากบ้านไปตามความฝันในเมืองหลวง ไปเจอกับแครอลที่เป็นเด็กกำพร้า ทั้งสองชอบดนตรีเหมือนกัน เลยช่วยกันแต่งเพลงและเข้าประกวดในรายการแข่งขันจนชนะ  เพลงประกอบซีรีย์เราขอการันตีว่า "เพราะ ทุก เพลง" เพราะแบบเพราะมาก เพราะวัวตายควายล้ม เพราะจนเอาไปตัดออกซิงเกิ้ลได้ เป็นซีรีย์ที่รวมนักร้อง นักแต่งเพลงหน้าใหม่ไว้เยอะมาก ใครที่ยังไม่เคยดู แนะนำให้ไปดู


เรื่องราวของ 2 สาวต่างขั้ว แครอลกับทูสเดย์ ที่ต่างมีความฝันในการอยากเป็นนักร้องนักดนตรีเหมือนกัน แครอล เป็นเด็กกำพร้า สู้ชีวิตตัวคนเดียวมาตั้งแต่เกิด เธอเป็นสาวมั่น ด้วยบุคลิกนี้ทำให้ทำงานบริการไม่รอด ถูกไล่ออกจากงานพาร์ทไทม์เป็นประจำ เธอมีความสามารถในการเล่นเปียโน


ทูสเดย์ เด็กสาวผู้อ่อนต่อโลก เป็นลูกสาวของนักการเมืองที่เข้มงวด เธอถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีสมกับเป็นลูกคุณหนู จึงทำให้เธอไม่มีสกิลการทำงานบ้านหรือทำงานอะไรเลย แต่ชีวิตสุขสบายที่หลายคนอิจฉา เธอกลับคิดว่ามันคือกรงขังเสียมากกว่า เธอมีความสามารถในการเล่นกีต้าร์คลาสสิก ทูสเดย์หนีออกจากบ้าน มาระหกระเหเร่ร่อนในเมืองใหญ่โดยไม่มีแผนอะไรเตรียมล่วงหน้าเลย เธอแค่อยากอยู่ให้ไกลจากคุณแม่ที่ขีดเส้นชีวิตให้เธอเดิน จนได้มาเจอกับแครอลผู้ทำงานไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง ได้แชร์ห้องพักให้ทูสเดย์อยู่ด้วย



ทั้งคู่ชอบดนตรีเหมือนกัน ใฝ่ฝันว่าอยากจะทำเพลงที่มนุษย์แต่งขึ้นให้ทุกคนได้ฟัง (ในเรื่องเป็นยุคที่คนไม่แต่งเพลงแล้ว ใช้ AI แต่งเพลงแทน) แล้ววันหนึ่งเพลงที่พวกเธอแต่งก็บังเอิญกลายเป็นไวรอลในอินเตอร์เน็ต ทำให้ กัส อดีตโปรดิวเซอร์เพลงสนใจมาเป็นผู้จักการส่วนตัว เพื่อปั้นพวกเธอให้ดัง กัสส่งแครอลกับทูสเดย์เข้าประกวด Mars' Brightest (อารมณ์คล้าย The X Factor และที่ใช้ชื่อว่า Mar เพราะเรื่องราวในการืตูนเกิดขึ้นบนดาวอังคาร) พวกเธอถูกจับตามองอย่างมาก และเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชม แต่ชีวิตในเส้นทางดนตรีของพวกเธอกำลังเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น


โดยรวมเรื่องราว 24 ตอนที่แบ่งออกเป็น 2 พาร์ท เล่าเรื่องอย่างเป็นขั้นเป็นตอน น่าติดตามพอสมควร แต่บางครั้งก็มีจุดเอื่อยๆ บ้าง หรือไม่อินบ้าง เพราะอาจจะเวิ่นไปบางช่วง หรือเล่นมุกอะไรที่เราไม่ได้รู้สึกตลกด้วย แต่พอจบตอนก็ชักชวนอยากดูต่อตอนถัดไปได้ในทันที

👉👉 ติดตามสนับสนุนได้ที่นี่ หนังใหม่ 2022

Wednesday, June 15, 2022

แนะนำเพลง Ost. จาก Kinnporsche the Series ที่โด่งดังไกลไปทั่วโลก

ด้วยคุณภาพของซีรีย์ที่มาแปลกแหวกแนวไม่เหมือนซีรีย์ BL ชาวบ้านชาวเมือง เพราะเขาเป็นซีรีย์วายมาเฟียเรื่องแรกของไทย ที่นอกจากจะขายบู๊ แล้วยังขายขำ ขายความโรแมนติค โอ๊ย ขายไปหมดจนไม่รู้จะชมอะไร เพราะผลงานออกมาคุณภาพดีไม่มีที่ติ!!! นอกจากความปังของซีรีย์ที่โด่งดังไปทั่วโลก จนล่าสุดข้ามขั้นไปถึงการจัด World Tour แล้ว โดยจะเริ่มจัดที่กรุงเทพในเดือนกรกฎาคม 2565 นี้ แล้วจะเดินทางไปยังที่อื่น ๆ หรือประเทศอื่น ๆ ต่อไป และแน่นอนว่าด้วยสไตล์ของ Be on Cloud แล้ว World Tour ครั้งนี้ต้องจัดเต็ม และมีอะไรมาเซอร์ไพรส์แฟน ๆ อย่างแน่นอน สำหรับความปังของ Ost ประกอบซีรีย์ที่ปล่อยออกมาก็ต้องบอกได้เลยว่า "ประสบความสำเร็จล้นหลาม" เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าแฟน ๆ เป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น


1.   แค่เธอ (Why Don't You Stay) โดย Jeff Satur

เพียงชื่อ Jeff Satur ก็สามารถการันตีได้แล้วถึงความสามารถ ศักยภาพ และผลงานว่าต้องออกมา "ดีมาก" แล้วก็คิดไม่ผิด เพราะแค่เสียงของหนุ่มเจฟลอยมา ชาวด้อมวันเสาร์ก็ฟินทะลุปรอทแล้ว กับท่อนฮุคอย่าง "แค่เธอ เอ่อ เออ เอ๊อ เออ" ซึ่งฮิตติดปากกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง ใครที่ร้องไม่ได้นี่ถือว่าตกเทรนด์ แถมเพลงนี่หนุ่มเจฟทั้งแต่งเนื้อร้องและทำนองด้วยตนเองอีกต่างหาก เรียกได้ว่ามากความสามารถของแท้


2. เพลงนี้ชื่อว่าเธอ โดย บาร์โค้ด ตฤณสิษฐ์

นอกจากความใสวัยละอ่อนของน้องบาร์โค้ดที่ไม่ว่าดูมุมไหนก็น่ารักน่าเอ็นดูไปหมด ใครจะไปเชื่อว่าหนุ่มน้อยมหัศจรรย์อายุเพียง 17 ปี ซึ่งเป็นนักแสดงหน้าใหม่คนนี้จะมีความสามารถในการร้องเพลงในขั้นที่เรียกได้ว่า "ว้าว" เพลงนี้ได้ "เอก Season Five" มาเป็นโปรดิวเซอร์ ไม่แปลกใจเลยกับผลงานที่ออกมาจึงไม่ทิ้งลายเซ็นความเป็น Season Five เพลงก็จะเป็นแนวฟังได้เรื่อย ๆ สบาย ๆ เหมาะกับการเปิดชิล ๆ ในบรรยากาศร้านกาแฟหรือคาเฟ่น่ารัก ๆ ก็คงโดน เรียกได้ว่า "ผ่าน ผ่าน ผ่าน" ไปเลยค่า ปรบมือให้กับน้องบาร์โค้ดรัว ๆ


นอกจาก 2 เพลงที่กล่าวถึงนี้แล้ว ยังมีเพลงประกอบซีรีย์เรื่องนี้ซึ่งขับร้องโดยนักร้องมืออาชีพอย่าง Slot Machine กับเพลง "เพียงไว้ใจ" (เวอร์ชั่นอังกฤษ Free Fall) หรือล่าสุดก็เป็น Ost ที่ขับร้องโดย เอก Season Five กับเพลง "ย้อนแย้ง" ซึ่งเป็นเพลงแทนความในใจของพอร์ชที่อยากจะถามคินน์ว่าพอร์ชมีตัวตนอยู่ในสายตาคินน์อยู่ไหม ถ้าไม่มีก็ปล่อยฉันไปเถอะ อย่ายื้อไว้เลย หากใครมีโอกาสลองไปฟังกันดูนะคะ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

👉👉ติตตามสนับสนุนได้ที่นี่ รีวิวหนังสารคดีและชีวประวัติ

Tuesday, June 14, 2022

รวมเพลง Ost. ซีรีย์วายโดนใจ จาก "นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ" (Cutie Pie Series)

หากพูดถึงซีรีย์ที่มีแต่ Ost เพราะ ๆ ปล่อยออกมาตลอดทั้งเรื่อง ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Ost ประกอบซีรีย์เรื่อง "นิ่งเฮียก็หาว่าซื่อ" (Cutie Pie Series) เป็นหนึ่งในซีรีย์แรก ๆ ที่นึกถึง เพราะนอกจากฝีไม้ลายมือด้านการแสดงที่โดนใจและเซอร์ไพรส์ผู้ชมแล้ว นักแสดงนำทุกคู่ในเรื่องนี้ก็ขยันปล่อยเพลงประกอบซีรีย์ออกมากันถี่ ๆ รัว ๆ และแต่ละเพลงก็มีความไพเราะพร้อมกับเนื้อเพลงความหมายดี ๆ ด้วยกันทั้งนั้น นับเป็นการโชว์ศักยภาพของเด็กในค่าย "ดูมันดิ" ได้อย่างประสบความสำเร็จ ซึ่งเพลงประกอบซีรีย์ที่จะขอแนะนำมีดังต่อไปนี้


ไอ้คนน่ารัก (My Cutie Pie)  เพลงประกอบซีรีย์เพลงแรกที่ปล่อยออกมา พร้อมกับดนตรีน่ารัก ๆ มิวสิควีดิโอที่แสนจะคิ้วท์ และเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของนุนิว ชวรินทร์ (รับบทเป็นหนูเกื้อ กีรติ) ที่มาพร้อมกับท่อนฮิตติดหูที่ว่า "oh ไอ้คนน่ารัก เธอนะทำให้คิดถึงแต่เธอ ไม่ต้องเป็นแบบใครนะ แค่เป็นตัวเธอพอละ รักเธอที่เธอเป็นแบบนี้ My cutie pie" เมื่อได้ฟังทีไรก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ เพราะเผลอคิดไปว่าตนเองก็น่ารักเหมือนหนูเกื้อในซีรีส์ และที่สำคัญเพลงนี้ยังให้ข้อคิดว่า "เป็นตัวของตัวเองน่ะแหละดีที่สุดแล้ว เพราะหากเขาจะรักเราเขาก็จะรักที่เราเป็นเรานี่ล่ะ"


How You Feel ซิงเกิ้ลที่สองที่ปล่อยออกมาในซีรีย์จักรวาลนี้ กับเพลงช้า ๆ ซึ้ง ๆ ที่ขับร้องโดยนุนิว ชวรินทร์ (อีกแล้ว) ซึ่งเพียงแค่ฟังก็รู้แล้วว่านอกจากเนื้อเสียงอันไพเราะเป็นเอกลักษณ์ น้องยังมีเทคนิคในการร้องที่ดีมาก ๆ อีกด้วย เนื้อหาเพลงนี้ฟังแล้วชวนให้อัดอั้นตันใจ จนมัมหมีทั้งหลายอยากจะไปหยุมคุณเหลียนว่าตกลงจะเอายังไงกับคุณหนูเกื้อของพวกเรา เพราะในเพลงนี้เน้นการถ่ายทอดอารมณ์ความในใจของหนูเกื้อที่อยากจะถามเฮียอย่างคุณเหลียนว่า สรุปแล้วคุณเหลียนให้หนูเกื้อเป็นอะไรกันแน่ และจริง ๆ แล้วเฮียคิดอะไรกับหนูเกื้อบ้างไหม อย่าปล่อยให้คิดไปเองข้างเดียวแบบนี้ มันอึดอัด




เป็นไปได้ไหมเธอ (Suddenly)  เป็นอีกเพลงที่เปิดพื้นที่ให้ ติวเตอร์ กรภัทร์ ได้แสดงศักยภาพการร้อง ซึ่งเสียงก็ใช้ได้ไม่เบา และยังเปิดโอกาสให้ ยิม ปริญญากรณ์ แสดงความสามารถในการเต้น ไปกับเพลงน่ารัก ๆ ดนตรีสบาย ๆ ฟังได้หลาย ๆ รอบสบายหูสบายจิต  ที่มาของ Ost เพลงนี้ ตรงกับคาแรคเตอร์ของตัวละครที่น้องทั้งสองคนรับบทในซีรีส์ กล่าวคือ เหนือ (รับบทโดยติวเตอร์ กรภัทร์) ตอนแรกก็ไม่ได้ชอบ ศีลเสมอ (รับบทโดย ยิม ปริญญากรณ์) และท่าทีตอนแรกของเหนือเหมือนจะชอบหนูเกื้อด้วยซ้ำ แต่ไป ๆ มา ๆ เวลาผ่านไปไฉนศีลเสมอถึงได้เข้ามาอยู่ในสายตาในห้วงคำนึงของเหนือได้ก็ไม่รู้ ก็เหมือนกับเนื้อเพลงใน Ost นี้ที่พยายามจะสื่อว่า "ถ้าจะบอกว่าฉันรักเธอจะเชื่อรึเปล่า ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไร ที่ไม่เหมือนเก่า แค่รู้ว่ามันไม่เหมือนเดิม..." นี่ล่ะใช่เลย...สตอรี่ของเหนือกับศีลเสมอ


คนเดียว (Alone) อีกหนึ่งเพลงที่ขอระบายความในใจของ "คนเดียว" (รับบทโดย ณฐ ณฐสิชณ์) ที่มีต่อ "เฮียอี้" (รับบทโดย แม้ก กรธัสส์) ด้วยความสัมพันธ์ที่อึมครึมที่เฮียอี้มีต่อคนเดียว ทำให้คนเดียวไม่แน่ใจว่าจริง ๆ แล้วเฮียอี้เกลียดคนเดียวหรือต้องการคนเดียวกันแน่ ก็เพราะไม่ยอมบอกความรู้สึกที่แท้จริงเสียที ทำให้คนเดียวน้อยใจจนต้องระบายออกมาเป็นเพลงนี้ กับประโยคหมัดน็อคเฮียอี้เพราะ ๆ ที่ว่า "ถ้ารักแล้วทำไม ปล่อยให้ฉันว้าวุ่นคนเดียว" เหมือนกับเป็นความนัยที่ต้องการจะบอกเฮียอี้ว่า "ถึงจะชื่อคนเดียว แต่ก็ไม่ได้อยากถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวนะเออ"


ที่รักที่รัก (Baby Boo) ซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดของซีและนุนิวที่ทางค่ายปล่อยออกมา ซึ่งเป็นการันตีอีกครั้งหนึ่งว่าแม้ซีรีย์จะจบไปแล้ว แต่กระแสความเปรี้ยงปร้างของซีรีย์เรื่องนี้รวมทั้งกระแสของคู่ซีนุนิวยังไม่หายไป ความน่ารักของ MV ตัวนี้ บอกได้คำเดียวว่า "สุด" ใครได้ดูขอการันตีว่าจะหุบยิ้มไม่ลง ความน่ารักเป็นธรรมชาติรวมทั้งเคมีของซีและนุนิวแผ่กระจายออกมาใน MV จนคนดูสามารถรู้สึกได้ว่านี่ไม่ใช่ Ost ประกอบซีรีย์ แต่นี่คือ Ost ชีวิตคู่จริง ๆ ของเขาทั้งสองคน ชาว "ซนซน" ถ้าได้ดูรับรองว่าจะต้องถูกใจจนอดที่จะส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความสุขไม่ได้อย่างแน่นอน

นอกจากเพลงที่แนะนำข้างต้นแล้ว ในซีรีย์เรื่องนี้ก็ยังมีเพลงเพราะ ๆ อื่น ๆ อัดแน่นเต็มให้ไปติดตามฟังกันได้เพลิน ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง "จะรักฉันอยู่ไหม" "ให้ฉันเป็นของเธอ" "เปลี่ยน" โดยนุนิว "ไม่เคยไม่รัก" โดย ซี พฤกษ์ ขอบอกได้คำเดียวว่า "เพราะทุกเพลง ไม่ฟังแล้วจะเสียดาย"

👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมที่นี่ รีวิวซีรี่ย์ฮิตติดกระแส

Monday, June 13, 2022

BTS ปล่อยเพลงใหม่ ชื่อเพลง Yet To Come(The Most Beautiful Moment)

ใครเป็นคอเพลง K-POP กันบ้างคะ เชื่อว่าวินาทีนี้แฟนBTSต้องตะโกนแล้วค่ะ ว่าวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านเป็นวันคัมแบ็กของเหล่าศิลปินระดับโลกอย่างวง BTS เชื่อว่านอกจากแฟนเพลง BTS แล้วคนอื่น ๆ ที่เป็นคอ K-POP ก็ต้องรู้เหมือนกันว่าเพลงเขากำลังปล่อยออกมา หนุ่มวง BTS ว่าการกลับมาในครั้งนี้สร้างตำนานความว้าวซ่าขนาดไหน วันนี้จะมารีวิวอย่างละเอียดยิบขอบอกเลยว่าเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวในฐานะแฟนเพลงคนหนึ่งเท่านั้น ไปตามดูกันเลยดีกว่ากับรีวิวเพลง Yet To Come ผลงานเพลงสุดประทับใจจากวง BTS


ชื่อเพลง : (방탄소년단) 'Yet To Come (The Most Beautiful Moment)'

ใครที่ชอบเพลงความหมายดี ๆ มาฮีลใจในยามปอบช้ำขอแนะนำผลงานเพลง Yet To Come เลยค่ะ เพลงนี้เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของการเดินทางของช่วงชีวิตที่ต้องผ่านทั้งเรื่องราวดี ๆ และเรื่องราวร้าย ๆ ผสมผสานกันไปแต่เรื่องที่ผ่านมาแม้จะปอบช้ำเจ็บปวดจากการเติบโตขนาดไหน จงเชื่อมั่นว่าวันที่ดีที่สุดกำลังจะมาถึง ถึงแม้ในเวลานี้มันยังจะไม่ได้มาถึงก็ตามแต่ ซึ่งเพลงนี้ก็มีการเชื่อมโยงกับเรื่องราวของวง BTS อยู่เหมือนกัน จากหลาย ๆ ท่อนของเพลงจะสังเกตเห็นการเดินทางของเหล่ากลุ่มคนที่รักในดนตรีและเสียงเพลงที่กำลังทำในสิ่งที่รักและมีความสุขไปกับมัน บางครั้งหลาย ๆ คนมองว่าประสบความสำเร็จไปแล้วในระดับหนึ่ง แต่หารู้ไม่ว่าที่ผ่านมาเพียงครึ่งทางเท่านั้นเอง ยังมีเรื่องราวดี ๆ ที่กำลังรอพวกเขาอยู่ข้างหน้าอยู่เหมือนกัน ซึ่งเพลงนี้เล่าได้หลายทาง นอกจากที่จะเป็นการสร้างกำลังใจให้แก่ใครที่กำลังท้อแท้แล้ว เพลงนี้ยังเล่าถึงการเดินทางของวง BTS ที่ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มากมายมาด้วยกัน และยังคงจะดำเนินต่อไป 


เพลงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเพลงของวง BTS ที่ทำให้เห็นถึงความเรียบง่ายที่แฝงไว้ในเอ็มวีเพลง เปิดฉากแรกมาก็ปรากฏตัวท่ามกลางทะเลทรายที่รายล้อมไปด้วยท้องฟ้าสีฟ้าแสนสดใส และมีจองกุกที่นั่งมองเพื่อน ๆ ที่กำลังมองเพื่อน ๆ ซึ่งในฉากนี้สะท้อนอะไรต่าง ๆ นานามากมาย อย่างเช่นการที่จะสื่อสารว่าการได้เห็นเหล่าเพื่อน ๆ และเขาเองได้เติบโตไปพร้อม ๆ กัน ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตไปด้วยกัน แน่นอนว่าการที่พวกเขาต่างได้ร่วมใช้ชีวิตด้วยกันมานานขนาดนี้ ยิ่งรู้สึกอบอุ่นใจเพราะเมื่อใดที่เราเองรู้สึกเหน็บหนาวจากการใช้ชีวิตกลับมีพวกเขาที่พร้อมจะโอบอุ้มเรา



อีกหนึ่งความท้าทายใหม่ที่จะไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้กับในเรื่องของดนตรีเพลงที่ว้าวมาก ๆ จากการตามเพลงฟังสบาย ๆ ของวง BTS ที่ดีทุกเพลง ก็ถือว่าเป็นการสร้างอีกหนึ่งความท้าทายครั้งใหม่ในการสร้างดนตรีเพลงนี้อย่างไรให้ดีกว่าและแปลกใหม่มากกว่า ซึ่งเจ้า Yet To Come ก็สามารถสร้างความท้าทายให้กลายเป็นเรื่องประทับใจได้ จากการที่ลองฟังดี ๆ ในช่วงแรก ๆ ดนตรีก็จะมีความช้า ๆ นิดหนึ่ง พอถึงในระดับหนึ่งก็จะไล่เสียงขึ้นไปเรื่อย ๆ สร้างความเร็วเพิ่มขึ้นทำให้ดนตรีน่าสนใจและแปลกใหม่ดี



👉👉 ติดตามสนับสนุนได้ที่นี่ ข่าววงการบันเทิง แวดวงคนดัง

13 The Musical (2022) รีวิวภาพยนต์เพลงและดนตรีจาก Netflix

 13 The Musical (2022) รีวิวภาพยนต์เพลงและดนตรีจาก Netflix เรื่องราวของ อีแวนด์ โกลด์แมน เด็กหนุ่มที่ย้ายมาจากโรงเรียนในนิวยอร์คตามครอบครัว ...