สำหรับภาพยนตร์มิวสิคัล เรื่อง jingle jangle - a christmas
journe
ที่ทำออกมาได้น่าสนใจและดีมากและทำออกมาในแนวแฟนตาซีที่มีกลิ่นไอ ดิสนีย์
ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกิดจากความเชื่อใจของ เจอโรนิคัส แจงเกิ้ล โดยเขาเป็นช่างประดิษฐ์ของเล่นที่ทุกคนต่างชื่นชม
และเขาถือว่าเป็นร้านของเล่นที่เก่าแก่และมีลูกศิษย์ที่เขาไว้ใจนั้นก็คือ กัสตาฟสัน
เขาเป็นคนทำลายความเชื่อใจ ความหวัง และความรักในสิ่งที่เขาทำโดยขโมยผลงานประดิษฐ์ชิ้นเอกของ
เจอโรนิคัส แจงเกิ้ล
ไปและตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่ประดิษฐ์ของเล่นหรือสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใดออกมาเลย และก่อนวันคสิตมาสต์ที่จะมาถึงนี้ เจสสิก้า ลูกของ เจอโรนิคัส ลูกของเธอหรือหลานสาวมาอยู่กับ เจอโรนิคัส และนั้นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่จะทำให้ เจอโรนิคัส กลับมาเป็นคนเดิมเมื่อเราให้ความรักและความไว้ใจใครสักคนมาก ๆ ขอให้เผื่อใจไว้ เพราะเขาอาจเป็นตัวการทำลายความสุขของเราไปชั่วพริบตา ซึ่งแน่นอนว่าเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขากลายเป็นคนแบบนั้นโดยไม่รู้ตัว เจอโรนิคัส เป็นนักประดิษฐ์ของเล่นที่โด่งดังคับเมือง ข้างกายเขานอกจากจะมีภรรยาและลูกสาวที่น่ารักเป็นกำลังใจเขายังมี กัสตาฟสัน ศิษย์เอกฝีมือดีที่ศรัทธาในตัวเขา เฝ้าคอยคำแนะนำจากเขา แต่!! เมื่อกัสตาฟสันปล่อยให้ความโลภ ความน้อยเนื้อต่ำใจเข้ามามีอำนาจ จนหลงเชื่อคำยุยงของเจ้าสิ่งประดิษฐ์และขโมยทุกอย่างไปจากเจอโรนิคัส จนไปสร้างอาณาจักรของตัวเองจากสิ่งที่ขโมยมา
เจ้าหุ่นตัวเล็กร่างสะโอดสะองตัวนี้มันพูดได้ค่ะ เจอโรนิคัสประดิษฐ์มันขึ้นมาพร้อมกับใส่ความคิดคล้ายมนุษย์ให้มันด้วย มันยุยงให้กัสตาฟสันทรยศอาจารย์ตัวเอง “เราไม่ได้ขโมยแต่เราแค่ยืมแล้วไม่คืนแค่นั้นเอง” เจ้าหุ่นตัวนี้มันบอกแบบนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังบอกเราว่า เมื่อเราเข้าข้างความอยากของตัวเองจนหลงลืมแม้กระทั่งความผิดชอบชั่วดี เราจะตกเป็นเหยื่อของความชั่วร้ายอย่างเต็มใจภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะกับการดูด้วยกันทั้งครอบครัวเอามาก ๆ นอกจากความบันเทิงที่จะได้จากภาพยนตร์แน่ ๆ แล้ว เพราะมันเป็นมิวสิคัลแฟนตาซี ดูง่ายดูเพลินแล้วยังแฝงข้อคิดที่ผู้ปกครองสามารถสอนเด็ก ๆ ให้เข้าใจได้ง่ายดายเลยทีเดียว มากกว่านั้นยังเตือนตัวเองได้อีกด้วย บริบทของภาพยนตร์สื่อออกมาอย่างชัดเจนไว้เลยว่า มันคือเรื่องของการถูกล่อลวงความคิดที่ความคิดฝ่ายต่ำก็มักจะมาในรูปแบบของความชอบธรรม เรื่องของความเชื่อความมั่นใจในตัวเอง ที่ต้องอาศัยความรักความศรัทธาเป็นเครื่องเยียวยา
ความเป็นมิวสิคัล
แน่นอนที่เพลงเป็นส่วนประกอบสำคัญสุด ๆ
เรื่องนี้ร้องเต้นได้เพลินหูเพลินตากันเลยทีเดียว เป็นมิวสิคัลสีสันสดใส
แต่ความคุ้มมันอยู่ที่เสียงเพลงจากนักร้อง
นักแสดงในเรื่องและนักร้องไทยของเรานี่แหละ แถมยังแปลเนื้อร้องเป็นไทยซะด้วย
เรื่องนี้ดิฉันดูสองรอบค่ะ ความยาว 2 ชั่วโมง 2 นาที
ก็คูณสองเข้าไปเพราะตั้งใจจะฟังเพลงล้วน ๆ Magic Man G ที่ร้องโดย
Keegan-Michael Key ฉบับภาษาไทยได้ คิง-พิเชษฐ์ บัวขำ จาก
เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ซีซั่นที่ 1 มาร้องเพลงนี้ แล้วก็ว้าวมาก ๆ กับเสียงของ
นก-พริมาภา กรโรจนชวิน ที่มาร้องเพลง Miles and Miles ในบทของคุณนายจอห์นสตัน
หน้าหนังอาจดูเหมือนเป็นเรื่องของหนูน้อยอัจฉริยะที่จะมาผจญภัยกับคุณตา
มีนิดหน่อยค่ะพอกล้อมแกล้ม น่ารักน่าหยิกและเห็นถึงความรักความอบอุ่นของตากับหลาน
แต่เพียงแค่นั้นก็ถือเป็นใจความหลักของเรื่องได้เลย คือการปลุกความมั่นใจ
การให้เนื้อหาไปที่เรื่องความของเชื่อ ความไว้ใจกับความจริงที่ว่า
สิ่งที่เราเห็นว่าดีสมบูรณ์แบบอาจมีจุดบกพร่องซ่อนอยู่เสมอ เหมือนเจ้าหุ่นเจ้าเล่ห์ตัวนั้น…คริสมาสต์นี้มีสิ่งอัศจรรย์รออยู่
แน่ ๆ เลย
No comments:
Post a Comment